เกษตรกรเหนือ แสดงพลังร้องสิทธิทำกิน ชูป้าย คนจนปลดแอก-เบื่อประยุทธ์

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) นำโดย นายดิเรก กองเงิน จัดกิจกรรม มหกรรมที่ดินเป็นของราษฎร 46 ปี สหพันธ์ชาวนาชาวไร่ฯ โดยมีสมาชิกกลุ่มมาร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน ทั้งนี้ กิจกรรมช่วงเช้า เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ทำบุญอุทิศแด่ดวงวิญญาณนักต่อสู้ผู้ล่วงลับ และร่วมกันอ่านแถลงการณ์สืบทอดเจตนารมณ์ชาวนา สหพันธ์ชาวนาชาวไร่ กล่าวคำปฏิญาณการต่อสู้เรื่องที่ดิน รวมทั้งร่วมกันเขียนบอกเล่าผลกระทบ ความเดือดร้อน เพื่อส่งให้ รมต.กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รัฐบาลใส่ใจ และลงมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่ม อย่างจริงจัง

โดยแกนนำปราศรัยเรียกร้องให้รัฐบาลจริงใจต่อประชาชนในการแก้ไขที่ดินทำกิน อย่ามองว่าประชาชนเป็นศัตรู แก้ไขกฎหมายที่เอื้อให้นายทุนผูกขาดถือครองกรรมสิทธิที่ดิน ทั้งนี้เนื้อหาคำปฏิญาณ ระบุดังนี้ วาระครบรอบ 46 ปี สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทยสู่สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ “ที่ดิน ต้องเป็นของผู้ถือคันไถ”

เกษตรกรเหนือ แสดงพลังร้องสิทธิทำกิน ชูป้าย คนจนปลดแอก-เบื่อประยุทธ์

วันที่ 19 พ.ย. ที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) นำโดย นายดิเรก กองเงิน จัดกิจกรรม มหกรรมที่ดินเป็นของราษฎร 46 ปี สหพันธ์ชาวนาชาวไร่ฯ โดยมีสมาชิกกลุ่มมาร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน ทั้งนี้ กิจกรรมช่วงเช้า เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ทำบุญอุทิศแด่ดวงวิญญาณนักต่อสู้ผู้ล่วงลับ และร่วมกันอ่านแถลงการณ์สืบทอดเจตนารมณ์ชาวนา สหพันธ์ชาวนาชาวไร่ กล่าวคำปฏิญาณการต่อสู้เรื่องที่ดิน รวมทั้งร่วมกันเขียนบอกเล่าผลกระทบ ความเดือดร้อน เพื่อส่งให้ รมต.กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รัฐบาลใส่ใจ และลงมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่ม อย่างจริงจัง

โดยแกนนำปราศรัยเรียกร้องให้รัฐบาลจริงใจต่อประชาชนในการแก้ไขที่ดินทำกิน อย่ามองว่าประชาชนเป็นศัตรู แก้ไขกฎหมายที่เอื้อให้นายทุนผูกขาดถือครองกรรมสิทธิที่ดิน ทั้งนี้เนื้อหาคำปฏิญาณ ระบุดังนี้ วาระครบรอบ 46 ปี สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทยสู่สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ “ที่ดิน ต้องเป็นของผู้ถือคันไถ”

ทั้งนี้ในฐานะเครือข่ายเกษตรกรที่รวมตัวกันจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และอำนาจรัฐที่กดทับเกษตรกรมาอย่างยาวนาน เครือข่ายฯตั้งปณิธานสานต่อหมุดหมายแห่งการต่อสู้ของชาวนาชาวไร่ ดังนี้

1)เราจะปกป้องผืนดินทำกินของบรรพบุรุษ และจักต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิชุมชน

2) เราในฐานะเกษตรกร จักสานต่อข้อเรียกร้องของสหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคมรัฐธรรมมนูญ ต้องฟังเสียงประชาชน ต้องมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน

3) ต้องเคารพสิทธิชุมชนโดยแท้จริง และ 4) เราจักสนับสนุนสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนทุกรูปแบบ บนหนทางแห่งประชาธิปไตย ซึ่งหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้วได้มีการตั้งขบวนเดินตามถนนห้วยแก้ว ไปยัง ลานประตูท่าแพ เพื่อจัดกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในเวลา 15:00 น.ต่อไป