รัฐสภาผ่าน 2ร่างแก้รธน.ตก 5ร่าง เปิดชื่อ “3สว.” หนุน “ฉบับไอลอว์”

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา การประชุมร่วมรัฐสภา นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาลงมติรับหรือไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเลขาธิการรัฐสภา ได้เริ่มขานชื่อสมาชิกรัฐสภาเรียงลำดับตามตัวอักษร ให้สมาชิกแต่ละคนจะขานมติว่า รับ-ไม่รับ-งดออกเสียงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละร่าง ตั้งแต่ร่างที่ 1-7

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า เมื่อเลขาธิการรัฐสภา ขานชื่อ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายปกรณ์ขานมติรับหลักการทั้ง 7 ร่าง พร้อมชู 3 นิ้วขณะที่ขานรับร่างที่ 7

ทั้งนี้ เมื่อการลงมติผ่านไปได้ 200 คน ปรากฏว่าสมาชิกรัฐสภาทางซีกรัฐบาล และ ส.ว.ส่วนใหญ่ ลงมติรับหลักการร่างที่ 1-2 ตามที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.ฝ่ายค้านเสนอ และลงมติงดออกเสียงในร่างที่เหลือ ขณะที่ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ลงมติรับหลักการทั้ง 7 ร่างตามที่ได้แสดงจุดยืนร่วมกันก่อนหน้านี้ โดยพบสมาชิกรัฐสภาลงมติที่น่าสนใจ คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงมติไม่รับหลักการทั้ง 7 ฉบับ

ส่วนนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ลงมติงดออกเสียงในร่างที่ 1 และ 2 ส่วนอีก 5 ร่างที่เหลือลงมติไม่รับหลักการ นอกจากนี้ ยังพบ ส.ส.รัฐบาล แหกมติวิปรัฐบาล 2 คน 1.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กับนายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ โดยลงมติไม่รับหลักการเลยแม้แต่ฉบับเดียวเช่นกัน ในขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ

สำหรับทางซีก ส.ว.นั้น พบว่านายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ว. ลงมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว. และพิศาล มาณวพัฒน์ ส.ว.ลงมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์เช่นกัน

ภายหลังขานชื่อโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ร่าง เป็นรายบุคคล จำนวน 732 คน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. และสิ้นสุดลงในเวลา 17.40 น. ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 4.40 ชั่วโมง โดยมีผลปรากฏว่า ร่างที่ 1 รับหลักการ 576 คำแนน ไม่รับหลักการ 21 คะแนน งดออกเสียง 123 คะแนน รางที่ 2 รับหลักการ 647 คะแนน ไม่รับหลักการ 17 คะแนน งดออกเสียง 55 คะแนน รางที่ 3 รับหลักการ 213 คะแนน ไม่รับหลักการ 35 คะแนน งดออกเสียง 472 คะแนน รางที่ 4 รับหลักการ 268 คะแนน ไม่รับหลักการ 20 คะแนน งดออกเสียง 432 คะแนน รางที่ 5 รับหลักการ 209 คะแนน ไม่รับหลักการ 51 คะแนน งดออกเสียง 460 คะแนน รางที่ 6 รับหลักการ 268 คะแนน ไม่รับหลักการ 19 คะแนน งดออกเสียง 432 คะแนน และร่างที่ 7 ซึ่งเป็นร่างของไอลอว์ รางที่ 7 รับหลักการ 212 คะแนน ไม่รับหลักการ 139 คะแนน งดออกเสียง 369 คะแนน ทำให้ร่างแก้ไขร่างที่ 1 และร่างที่ 2 ผ่านวาระที่ 1 รับหลักการ โดยร่างแรกมี ส.ว.รับหลักการ 127 คน ร่างที่ 2 ส.ว.รับหลักการ 176 คน

จากนั้นที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ จำนวน 45 คน แบ่งเป็น ส.ส. 30 คน ส.ว. 15 คน กำหนดเวลาแปรญัตติ 15 วัน โดยที่ประชุมเห็นพ้องให้ใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 เป็นหลักในการพิจารณาของ กมธ. นัดประชุมนัดแรกในวันที่ 24 พฤศจิกายน