เผยแพร่ |
---|
‘นพ.สุกิจ’ แจงยอดคนบาดเจ็บจากการชุมนุม ด้าน ‘แทนคุณ’ ชี้อยากให้ ปชช.เชื่อระบอบ ปชต. ลั่นสภายังเป็นที่พึ่ง ‘ชวน’ ยังเป็นเสาหลัก ปชต.
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อม นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลง
โดย นพ.สุกิจกล่าวว่า ประธานสภามีความห่วงใยต่อผู้ชุมนุมโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้ตนและทีมงานติดตามดูแลให้การช่วยเหลือต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมของศูนย์เอราวัณ มีผู้บาดเจ็บรวม 55 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา 32 คน, ถูกยิง 6 คน, มีอาการป่วยขณะชุมนุม 4 คน และบาดเจ็บอื่นๆ 13 คน ทั้งนี้ได้มีการกระจายรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งตนและทีมงานได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ผู้บาดเจ็บเข้ารักษาส่วนมากจากแก๊สน้ำตา และได้เดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนรายที่บาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงที่โคนขาซ้าย ตอนที่ตนไปก็กำลังเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีสิทธิประกันสังคม หลังจากผ่าตัดเสร็จและพักฟื้นแล้วจะมีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีสิทธิประกันตนอยู่
ด้านนายแทนคุณกล่าวว่า เมื่อวานได้มีโอกาสตาม นายชวน หลีกภัย ไปดูแลในพื้นที่โดยรอบของรัฐสภา ขอยืนยันว่านายชวนมีความเป็นห่วงเป็นใยทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่สภา ตำรวจ รวมทั้งผู้ชุมนุมด้วยได้ตั้งทีมให้ไปดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นั่นก็สะท้อนถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่เลือกปฏิบัติ และคำว่าขอบคุณที่ท่านกล่าวนั้น ท่านกล่าวว่าขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็สะท้อนกลับมาที่สภาว่าจะต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีในเมื่อเจ้าหน้าที่ ประชาชนได้ทำหน้าที่ของตนเองแล้ว ไม่ได้เป็นการกล่าวขอบคุณฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเป็นการสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายเดียว และได้กำชับให้ดูแลทุกฝ่ายให้ดี
นายแทนคุณกล่าวอีกว่า เป็นความไม่สบายใจของพวกเราที่ทำงานในสภา ที่เหตุการณ์ชุมนุมใช้อาวุธที่รุนแรง ซึ่งเข้าใจว่าการชุมนุมกับการดำเนินวิถีประชาธิปไตยเป็นของคู่กัน เราเองเข้าใจในสิทธิเสรีภาพแต่ก็มีความเป็นห่วงและโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่มีการกระทบกระทั่งกันแต่โชคดีที่เรามีสื่อมวลชนคอยจับตา ทำให้เราเห็นภาพหลักฐานว่าใครทำอะไรอย่างไร ทั้งนี้ในวันนี้จะมีการโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากให้ประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เชื่อมั่นและเคารพในกติกาในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหา โดยใช้รัฐสภาที่เป็นภาษีของประชาชนได้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง แตกแยกทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการสถาบัน ตนมองว่าเป็นประเด็นที่แหลมคมและนำมาซึ่งความเจ็บช้ำน้ำใจของแต่ละฝ่าย ขอให้ระมัดระวังในท่าทีหรือถ้อยคำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานสภามีความห่วงใยว่าอยากให้สื่อสารว่าสภายังเป็นที่พึ่งที่หวัง โดยเฉพาะนายชวนยังเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยในขณะนี้ได้อยู่