‘มงคลกิตติ์’ ชี้ร่างไอลอว์แก้สุดซอย- ‘ทวี’ จุกเห็นคนเจ็บ- ‘วิสาร’ ยอมกราบหาก 82 ส.ว.รับร่าง

ถกร่าง รธน.วันที่ 2 ‘มงคลกิตติ์’ ชี้ร่างไอลอว์แก้แบบสุดซอย ด้าน ‘ทวี’ ยอมรับ เจ็บปวดหลังเห็นคนต้องบาดเจ็บ ขณะที่ ‘วิสาร’ เอ่ยปากยอมกราบ หาก 82 ส.ว.ยอมรับร่างไอลอว์

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายว่า เราเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะเป็นฉบับที่สามารถสร้างความปรองดอง สามารถแก้ไขวิกฤตที่ผ่านมาได้ แต่เมื่อใช้ไปแล้วมีปัญหาจนมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญถึง 7 ร่าง ซึ่งตนเห็นว่าร่างไอลอว์เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสุดซอย ล้างอำนาจของ คสช.ทั้งหมดให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ขอร้องว่าอย่าสร้างความสับสน อย่าบอกว่าร่างรัฐธรรมนูญบางฉบับล้มล้างสถาบัน บางฉบับฟ้องร้องสถาบันได้ เพราะเท่าที่อ่านดูไม่มีแม้แต่ข้อเดียว และไม่มีกฎหมายที่จะนิรโทษกรรมให้กับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะทั้งสองคนกลับมาได้แต่ต้องมารับโทษก่อน ดังนั้น อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนคิดว่าร่างของประชาชนเป็นร่างที่บริสุทธิ์มากที่สุด หมายความว่าสุดซอยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า เหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย สิ่งที่จำเป็นต้องแก้คือแก้ในหมวด รัฐอิสระกับรัฐประหารเงียบเพื่อจะได้เป็นประชาธิปไตย ทั้งนี้ ตนเคยอภิปรายว่าหลังจากเกิดยุทธศาสตร์ชาติและปฏิรูปประเทศ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของไทยเราตรวจสอบไม่ได้ แต่ข้อมูลจากองค์กรที่วัดการทุจริตของโลก ประเทศไทยเราได้ 36 คะแนนจาก 100 คะแนน รวมทั้งความยากจนพุ่งขยาย จึงคิดว่าส่วนหนึ่งมาจากยุทธศาตร์ โดยยุทธศาตร์ชาติ คือ การสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับ คสช.และพวกพ้อง นั่นคือการได้สัมปทานต่างๆ

“เมื่อเช้าตนออกจากบ้านเพื่อจะไปเยี่ยมผู้ที่ถูกยิงทราบว่าเป็นกระสุนจริง แต่ไม่ได้เยี่ยม เพราะต้องเข้าผ่าตัด ซึ่งเขาเป็นนักศึกษา ต้องการจะมาหาอนาคตที่ดี เขาเดินทางมา ขณะที่เรานั่งในห้องแอร์ ผมมีความรู้สึกเจ็บปวด ผมไม่ต้องการอะไรจากประเทศ แต่ต้องการอนาคตที่ดีให้กับประเทศ ยืนยันว่าเห็นด้วยกับร่างฉบับประชาชน วันนี้การตัดสินใจเราไม่กี่นาที บางทีเราอาจจะเป็นการทำร้ายประเทศ การสร้างสันติภาพไม่ใช่เป็นการแพ้ชนะ แต่จะทำอย่างไรเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ”

จากนั้นนายชวนชี้แจงว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มอบหมาย นพ.สุกิจ ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ วันนี้หากหลังลงมติเสร็จเรียบร้อยแล้ว หาก พ.ต.อ.ทวี พอมีเวลาก็ไปด้วยกันได้ นอกจากนี้ได้กำชับทางฝ่ายเลขาธิการให้ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่เป็นการกระทำผิด และข้อความที่มีลักษณะไม่เหมาะสมด้วย

ส่วน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ร่างของไอลอว์ไม่ได้เลิศหรู ไม่ได้สวย ไม่ได้มีอะไรที่เพียบพร้อม แต่ถ้า 82 ส.ว.รับร่างไอลอว์ ตนจะไปกราบจริงๆ ถ้าจำได้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ตนกรีดแขน เพราะต้องการที่จะประท้วงคนที่ไม่รับผิดชอบ นายกฯได้รับปากว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีสมาชิกส่งชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เราอยู่สภาแห่งนี้มานาน สภาผู้แทนราษฎรต้องยิ่งใหญ่กว่าที่อื่น ท่านเหมือนเด็กมีอะไรก็วิ่งไปหาพ่อ เราสามารถเอาร่างไอลอว์มารวมกับร่างรัฐบาลเป็นหลักแล้วมาแก้ไข สิ่งที่ท่านได้รับไปแล้วจะคลี่คลายปัญหาชาติบ้านเมืองได้

นายวิสารกล่าวต่อว่า มีสมาชิกหลายคนมาอ้างว่ามีการปลุกม็อบ มีการเอาม็อบมากดดัน แต่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย มาจะมาประชุมสภา แต่เข้าไม่ได้ ต้องอ้อมจากบริษัทบุญรอดฯ เข้าไปในค่ายทหาร ท่านยืนยันว่ามีคนไปเปลี่ยนเสื้อเหลืองในนั้น ที่สำคัญสิ่งที่ ส.ว.บางคนที่นับถือ ได้มาเล่าให้ตนฟังว่าเด็กๆ หยาบคาย พูดจาไม่ดีให้ร้าย แต่เรามีวุฒิภาวะ เด็กเหล่านั้นคือลูกหลาน ถ้าเทียบไปแล้วเด็กเหล่านั้นต้องติดคุก โดนฉีดน้ำ โดนแก๊สน้ำตาไม่ว่า แต่วันนี้โดนกระสุนจริงแล้ว จากนี้ไปจะอยู่ตรงไหน ปลายอุโมงค์มองไม่เห็นแสงจริงๆ ซึ่งเด็กมาเพียงต้องการจะรู้ว่าร่างไอลอว์จะได้รับการร่วมพิจารณาหรือไม่ แค่นี้เราก็ไม่ให้เขา กลับปิดกั้น จนเลือดตกยางออก จะยั่วยุให้สถานการณ์สุขงอม บ้านเมืองวุ่นวายแล้วจะปฏิวัติอีกรอบหรือ

“ตอนนี้ผมต้องกล่าวหาคนที่เป็นนายกฯทำไมพูดกลับไปกลับมา รับปากว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ก็ให้เด็กๆ ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ อย่างนี้จริงใจหรือ และคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ต่างกับคนรุ่นเก่า ผมไม่ได้หมายถึงว่าผมเป็นคนรุ่นใหม่ ปีนี้ผมอายุ 64 แล้วและก็เชื่อว่าในบรรดา ส.ว. แม้กระทั่งคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 60 อายุไปเท่าไหร่แล้ว ท่านรู้ทันถึงเด็กๆ ที่เขาคิดหรือไม่ ดังนั้น ขอเอาคนที่มีความจริงใจรับฟังเด็ก ผมไม่ได้เอาใจเด็ก แต่เราจะปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้อีกไม่ได้ ผมสะท้อนใจมากทุกวันนี้ตนเครียดมาก และยังมีความคิดว่าเราจะหาหนทางอย่างไร ผมไม่อยากให้ชาติบ้านเมืองเป็นแบบนี้ ดังนั้นปุโรหิตที่กำลังบริหารบ้านเมืองอยู่ขณะนี้ต้องเข้าใจและให้อภัยเด็ก ถ้าขืนไปเชื่อลิ่วล้อที่อยู่ข้างๆ ผมว่าประเทศถึงคราววิบัติแน่นอน” นายวิสารกล่าว