‘ไทยภักดี’ รวมตัวค้านแก้ รธน. ‘วรงค์’ ชี้ฉบับ 60 ดีต่อการเมืองระยะยาว

‘ไทยภักดี’ รวมตัวค้านแก้ รธน. ‘หมอวรงค์’ ชี้ฉบับ 60 ดีต่อการเมืองระยะยาว ยอมไม่ได้ต่างชาติหนุนหลังปลุกระดมลูกหลาน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 09.00 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย กลุ่มไทยภักดี นำโดยนายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อมด้วยมวลชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง เดินทางรวมตัวกันเพื่อเตรียมยื่นหนังสือคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญต่อประธานสภา

นพ.วรงค์กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านๆ มา ส.ว.อยู่ภายใต้นักการเมือง แต่รัฐธรรมนูญ 60 มาจากกลุ่มอาชีพต่างๆ และเลือกกันเอง ทำให้พรรคการเมืองครอบงำไม่ได้ ขอย้ำว่าที่ออกมาสู้ด้วยหัวใจ เพราะตนเป็นนักการเมือง จึงดูออกว่ารัฐธรรมนูญ 60 ไม่ได้สร้างปัญหา แต่แก้ปัญหาในอดีตและเป็นผลดีต่อระบบการเมืองในระยะยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน นพ.วรงค์และมวลชนได้เดินเท้าเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมราว 500 เมตร ไปตามถนนประชาราษฎร์สาย 1 มุ่งหน้าฝั่งแยกเกียกกาย โดยระบุว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีการประกาศพื้นที่หน้าสภาเป็นพื้นที่ห้ามชุมนุม

จากนั้น นพ.วรงค์กล่าวต่อมวลชนและสื่อมวลชนอีกครั้งว่า เรานัดหมายท่านประธานสภาไว้เวลา 10.30 น. เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ตนเพิ่งทราบตอนเช้าเมื่อมาถึงว่ามีการประกาศพื้นที่หน้าสภาเป็นพื้นที่ห้ามชุมนุม พวกตนเคารพกติกา จึงเดินออกมาราว 500 เมตร เอาหัวใจมาเจอกันที่นี่

“ผมอยากย้ำเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ มีกลุ่มคนพยายามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจการปกครองของประเทศโดยใช้ม็อบร่วมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องตามสถานการณ์ให้ทันว่าขณะนี้มีกลุ่มบุคคลที่มีต่างชาติหนุนหลังปลุกระดมลูกหลานเรา ซึ่งคนไทยยอมไม่ได้เด็ดขาด นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องออกมาคัดค้านและต่อต้านอย่างเต็มที่” นพ.วรงค์กล่าว

นพ.วรงค์กล่าวว่า ขณะนี้มีร่างรัฐธรรมนูญ 7 ร่าง แต่ที่ต้องต่อสู้มี 3 ร่าง คือร่างของไอลอว์ ซึ่งจะนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร., ร่างของ ส.ส.รัฐบาลอีก 1 ร่าง และร่างของฝ่ายค้าน 1 ร่าง รวม 3 ร่าง สังคมเข้าใจผิดว่าต้องต่อต้านเฉพาะร่างไอลอว์อย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่ แต่ต้องคัดค้านทั้งหมดที่กล่าวมา เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่จะนำไปสู่วิกฤตการเมืองในอนาคต

“เราต้องร่วมกันต่อต้านคัดค้าน พี่น้องนึกออกไหมว่าอดีตที่ผ่านมา เขาพอใจรัฐธรรมนูญปี 40 นำไปสู่เผด็จการรัฐสภา ทุจริต ทุนสามานย์ กินบ้านกินเมือง แม้แต่รัฐธรรมนูญ 50 แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย นำไปสู่ปัญหาเดียวกัน พวกนี้กำลังจะตั้ง ส.ส.ร.นำไปสู่จุดที่เขาต้องการ ซึ่งคนที่จะกลับมาเป็น ส.ส.จะเป็นนักการเมืองหน้าเดิมเสียส่วนใหญ่ อย่างน้อย 70-80% คนเป็น ส.ส. เป็นลูกหลานนักการเมือง เศรษฐี นายทุนในพื้นที่ แต่หากดูภาพรัฐธรรมนูญปี 60 ส.ส. หน้าใหม่ๆ เดินกันเต็มสภา บ่งบอกว่ารัฐธรรมนูญ 60 ทำการปฏิรูปประเทศ เปิดโอกาสให้ลูกหลานประชาชนได้มาเป็น ส.ส. พี่น้องที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็เป็น ส.ส.ได้ แต่ถ้าเป็นรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขกัน รับรองว่าอีก 100 ชาติก็ไม่ได้เป็น ส.ส.” นพ.วรงค์กล่าว

นพ.วรงค์กล่าวว่า ขณะนี้เราแทบไม่เห็นกลุ่มการเมืองที่เรียกว่า ‘มุ้ง’ เช่น มุ้งวังน้ำยม มุ้งวังบัวบาน ซึ่งในอดีตได้ยินตลอดว่ามีการต่อรองประเด็นต่างๆ ในช่วง 20 ปี แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำลายระบบมุ้งไปแล้ว จึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

“เขาต้องการให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งจากจังหวัดต่างๆ ทำนายได้เลยว่ามาจากฐานเสียงของพรรคการเมือง จึงทำให้ ส.ว.เป็นขี้ข้านักการเมือง พรรคการเมือง ที่ต้องการคุม ส.ว.ได้ และนำไปสู่เผด็จการรัฐสภา พวกเราจึงตัองคัดค้าน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อย่างที่รู้อยู่แล้วว่าคือฉบับปราบโกง เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ทุจริต คอรัร์ปชั่น โกงทั้งโคตร และโคตรโกง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงอย่างชัดเจน ใครที่ศาลคัดสินว่าทุจริต จะถูกตัดสิทธิสมัคร ส.ส.ตลอดขีวิต สมัยก่อนไม่เป็นไร โกงได้โกงไป สมัคร ส.ส.ได้อีก นี่คือประโยชน์ของรัฐธรรมนูญ 60 ที่นักการเมืองไม่ชอบ ต้องการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้ไข” นพ.วรงค์กล่าว