เอฟบีไอชี้การก่ออาชญากรรมเพราะอคติในสหรัฐพุ่งสูงสุด

เอฟบีไอชี้การก่ออาชญากรรมเพราะอคติในสหรัฐพุ่งสูงสุด

สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ระบุว่าการก่ออาชญากรรมที่มีสาเหตุมาจากความเกลียดชังหรืออคติในสหรัฐเพิ่มสูงที่สุดในรอบทศวรรษเมื่อปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้การสังหารโดยมีแรงจูงใจจากอคติไม่ว่าจะทั้งจากเชื้อชาติ ศาสนา หรือความเชื่อในสหรัฐเมื่อปี 2562 มีจำนวน 51 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2561

รายงานประจำปีเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมด้วยอคติของเอฟบีไอระบุว่า ในปีที่ผ่านมามีอาชญากรรมชาตินี้เกิดขึ้น 7,314 คดี มากขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 7,120 คดี ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยบันทึกไว้ในปี 2551 ที่ 7,783 คดี

ข้อมูลระบุว่ามีการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมชนิดนี้โดยมีพื้นฐานจากศาสนาเกือบ 7% ขณะที่การเพิ่มขึ้นของการก่ออาชญากรรมที่มีเป้าหมายเป็นชาวยิวหรือสถาบันของชาวยิวเพิ่มขึ้น 14% ความเกลียดชังต่อคนเชื้อสายลาตินก็เพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553

การก่อชญากรรมโดยมีมูลเหตุจูงใจจากความเกลียดชังและอคติเพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐเกือบทุกปีนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยกลุ่มที่รณรงค์ในเรื่องดังกล่าวออกมาเตือนว่าการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมเช่นนี้ มีขึ้นท่ามกลางการแสดงความรู้สึกหรือความเชื่อที่ไร้เหตุผล รวมถึงการใช้ถ้อยคำรุนแรงที่สร้างความเกลียดชัง

ไบรอัน เลวิน ผู้อำนวยการของศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับความเกลียดชังและความรุนแรงในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียระบุว่า การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมชนิดนี้ได้ส่งสัญญาณถึงลักษณะของความโหดร้ายรุนแรง โดยการเพิ่มขึ้นไม่ได้มีเพียงจำนวนเหยื่อที่ตกเป็นเป้าหมายของการถูกทำร้าย แต่ยังรวมถึงวิธีการที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามมา