“ขนส่ง” โอดสูญรายได้ 100 ล้านต่อวัน หากสั่งห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้า กทม.

ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกฯ คัดต้านนโยบายห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้า กทม. เวลา 06.00-21.00 น. ชี้ไม่ได้การแก้ปัญหา ส่งผลผู้ประกอบการขาดรายได้ วันละ 100 ล้านบาทต่อวัน 

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการมอบนโยบาย ให้เร่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยได้เตรียมการรับมือเป็นระดับ

หนึ่งในข้อปฏิบัติในการรับมือ คือ การห้ามรถยนต์ รถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าพื้นที่ กทม.ช่วงเวลา 06.00-21.00 น. ให้วิ่งได้ถึงถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่ 1 ธันวาคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจากกองบังคับการตำรวจ

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. คัดค้านออกนโยบายห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้า กทม. เวลา 06.00-21.00 น. เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด

ด้าน กทม.ชี้แจงว่า คำสั่งยังไม่ได้บังคับใช้ ต้องรอกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พิจารณาออกคำสั่งในส่วนของตำรวจจราจรก่อน

“รถบรรทุกบนถนนมี 30,000-40,000 คัน/วัน หรือคิดเป็น 2% จาก 5-6 ล้านคัน/วัน ขอ กทม.คุมรถยนต์ดีกว่า เพราะผู้ประกอบการจะสูญเสียรายได้วันละ 100 ล้านบาท และเกิดภาวะสินค้าตกค้างที่ท่าเรือคลองเตยไม่น้อยกว่า 2,000 ตู้ วันที่ 16 พ.ย.นี้ ตำรวจจราจรนัดสมาคมไปหารือแล้ว”

เช่นเดียวกับ นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาของภาครัฐที่ไม่ตรงจุด ซ้ำยังเป็นการสร้างปัญหาใหม่ ทำให้จราจรติดขัดมากขึ้นอีก ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีมากขึ้น

เนื่องจากทางหลวงหมายเลข 9 ก่อนถึงสุวรรณภูมิ-รังสิต-วังน้อย เป็นการข้ามจากภาคตะวันออกไปภาคใต้ และภาคตะวันตกเข้ามาในกรุงเทพฯ เมื่อไม่ให้ใช้วงแหวนเข้าเมือง แน่นอนว่ารถต้องติดหนัก

“หากประกาศแล้วส่งผลกระทบต่อการสัญจรก็คงต้องร้องเรียน ผมพูดมาหลายครั้งแล้วว่า การห้ามรถใหญ่วิ่งนั้นไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ว่าเราห่วงเรื่องต้นทุนผู้ประกอบการจะเพิ่ม แต่การออกประกาศจะทำให้รถยิ่งติด ฝุ่นจะยิ่งเพิ่ม”