“อาคม” สั่งเกาะติดแผนลงทุน-ฐานะการเงิน รสก.ปี’64-65 ขึงเป้าเบิกจ่าย 95%

รมว.คลังเดินสายมอบนโยบายสคร. สั่งติดตามแผนการลงทุน-ฐานะการรัฐวิสาหกิจปี 64-65 ลั่นคงเป้าเบิกจ่ายงบลงทุนที่ 95% หลังปี 63 เบิกต่ำกว่าเป้าอยู่ที่ 80-82% เชื่อเงินนำส่งเข้ารัฐยังปกติ แม้มีผลกระทบโควิด

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ว่า ตอนนี้ได้มอบหมายให้สคร.ประสานงานกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ เพื่อติดตามดูแผนการลงทุน รวมถึงงบการเงินในปี 2564-2565 เพื่อพิจารณาว่าแผนการลงทุนและสถานะงบการเงินจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 มากน้อยเพียงใด และจะต้องมีการปรับแผนการลงทุนอย่างไรบ้าง และจะเป็นไปในแนวทางใด

โดยเฉพาะในปี 2565 จะเป็นแผนที่จะนำมาเป็นฐานของงบประมาณรัฐวิสาหกิจปี 2565 ด้วย และจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่รัฐบาลจะจัดทำแผนปีงบประมาณ 2565 ที่จะเริ่มภายในเดือนธันวาคมนี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องงบการลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2564 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวงเงินไว้ 2.85 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 เพิ่มขึ้น 3.7 หมื่นล้านบาท โดยเป้าหมายของงบการใช้จ่ายตั้งไว้ 95% ซึ่งในปีที่ผ่านมาแม้ว่างบจะออกล่าช้าแต่สามารถทำได้ถึง 80-82% ถือว่าดีอยู่ แต่อยากให้เม็ดเงินลงทุนไปสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากที่สุดจึงตั้งเป้าหมายปี 2564 อยู่ที่ 95%

และโครงการขับเคลื่อนด้านสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นโครงการ PPP โดยนับตั้งแต่ปี 2559-2563 วงเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่ที่ 8.3 แสนล้านบาท โดยในปี 2563 มีโครงการกำลังนำเสนอคณะกรรมการ PPP และบางโครงการอยู่ระหว่างลิสต์เตรียมโครงการอยู่อีก 2.47 แสนล้านบาท รวมเม็ดเงินทั้งสิ้น 1.1 ล้านล้านบาท

ในจำนวนดังกล่าวบางโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และหลายโครงการอยู่ระหว่างนำเสนอหน่วยงานต้นสังกัด โดยโครงการที่ได้รับอนุมัติและอยู่ระหว่างก่อสร้าง กระทรวงคลังได้มอบหมายให้สคร.ติดตามการเบิกจ่าย เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ไม่ให้เกิดความล่าช้า

โดยจะมีคณะกรรมการของดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นผู้ดูแลโครงการ PPP ขนาดใหญ่ โดยงบลงทุนจะเป็นส่วนของรัฐบาลที่เป็นรัฐวิสาหกิจและโครงการ PPP

“การเบิกจ่ายในปี 2563 รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายได้ 80-82% ถือว่ายังโอเคอยู่ แต่ปี 2563 รัฐวิสาหกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วย ซึ่งในช่วงล็อกดาวน์มีบางส่วนที่ต้องปิดให้บริการ และบางส่วนยังเปิดให้บริการ และมาตรการรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานและสาธารณูโภคที่ลดค่าน้ำค่าไฟ ทำให้งบการเงินของรัฐวิสาหกิจในปี 2563 ได้รับผลกระทบบ้าง

ดังนั้น ในปี 2564 เราจึงอยากให้สคร.ประสานงานกับรัฐวิสาหกิจเพื่อดูแผนปี 64-65 พร้อมกันเลยว่าจะต้องปรับแผนอย่างไร ส่วนที่ยังเบิกจ่ายไม่ครบก็สามารถเหลื่อมจ่ายหรือคร่อมไปในปี 64 ได้ เพราะโครงการส่วนใหญ่ใช้เวลามากกว่า 1 ปี” รมว.คลังกล่าว

สำหรับฐานะการเงินของรัฐวิสาหกิจนั้น เป็นเรื่องที่สคร.จะต้องประสานงานกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพื่อส่งเงินเข้ารัฐไม่ว่าในช่วงเวลาปกติหรือในช่วงที่มีผลกระทบจากโควิด-19 จะเห็นว่ารัฐวิสาหกิจยังสามารถบริหารจัดการนำส่งเงินเข้ารัฐได้ตามปกติ ซึ่งมั่นใจได้ว่าการนำส่งเงินจะไม่มีปัญหา และภาครัฐเองจะบริหารเรื่องงบประมาณให้มีประสิทธิภาพให้มากที่สุด