สหภาพนักศึกษายุโรป (อีเอสยู) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประณามรัฐบาลไทยในการใช้อำนาจกฎหมายจัดการผู้ประท้วง เรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงเรียกร้องจากผู้ชุมนุมหยุดคุกคามประชาชน และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ประเทศสมาชิก และสหภาพนักศึกษาต่างๆร่วมประณามรัฐบาลไทย

แถลงการณ์ของอีเอสยูระบุว่า นักเรียนนักศึกษาจำนวนมากได้ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตย เรียกร้องให้ทหารถอนตัวออกจากการเมืองและเคารพสิทธิมนุษยชน แต่ก็ต้องเผชิญกับการคุกคามจากรัฐบาล และการใช้กำลังจากรัฐ เช่นการอุ้มหาย ใช้กำลังปราบปราม

แถลงการณ์ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้นำในการรัฐประหารเมื่อปี 2014 ครองอำนาจ 5 ปีโดยไม่มีการเลือกตั้ง มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่สืบทอดอำนาจ มีการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม มีการยุบพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

ส่งผลให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ดึงดูดนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากเข้าร่วมจากการติดตามข่าวสารในโลกออนไลน์ และโครงสร้างการศึกษาที่กดขี่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ

การชุมนุมตึงเครียดมากขึ้นเมื่อรัฐบาลไทยให้พรบ.ฉุกเฉินเพื่อให้การชุมนุมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมีความพยายามในการปิดกั้นสื่อ มีการกดดันผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้หยุดยั้งการชุมนุมของนักศึกษา มีการจับกุมแกนนำจำวนมาก ล่าสุดมีผู้ชุมนุมถูกจับแล้วกว่า 80 คน และยังมีการใช้ปืนฉีดน้ำผสมสารเคมีแรงดันสูงฉีดใส่ผู้ชุมนุมอายุน้อยด้วย

โดยอีเอสยูประกาศว่า 1.ร่วมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในประไทยไทย 2. ประณามการกระทำเผด็จการกดขี่ของรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพและพิทักษ์สิทธิในการแสดงออก การชุมนุมโดยสนติและเสรีภาพสื่อ และ เรียกร้องให้ 3. สหภาพยุโรป (อียู) ประณามการกดขี่ และความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ และเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่นำโดยนักศึกษา