“3ม็อบ” นัดเบิ้มวันนี้ที่ อนุสาวรีย์ปชต.-ตร.จัด 5 พันนายดูแล “อานนท์” ลั่นแค่เริ่มต้น-ไม่อ่อนแรง

14 พฤศจิกายน “3 ม็อบ” นัดชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จับตาดูจะมีอะไรเซอร์ไพร้ส์อีก ขณะที่ตำรวจเตรียมพร้อมจัดกำลังพลรับมือ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ร่วมแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการชุมนุมดังกล่าว

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุม3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มนักเรียนเลว นัดชุมนุมช่วงบ่ายบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ก่อนเดินเท้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  2.กลุ่มผู้หญิงปลดแอก นัดชุมนุมเวลา 16.00 – 19.00 น. บริเวณสี่แยกคอกวัว และ 3.กลุ่มจัดกิจกรรมคอสเพลย์หรือคอสเฟสดิวัล  หรือ “MOB FEST” บริเวณฟุตปาธรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหน้าร้านแมคโดนอล ตั้งแต่เวลา 14.00 – 24.00 น.

“บช.น.จัดผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ 3 ส่วน โดยโซนแรก ถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า แยกจปร. แยกมัฆวาน จนถึงแยกผ่านฟ้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1 ) มีพ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาการ ผบก.น.1 ดูแลความเรียบร้อย โซนที่ 2 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยรอบ ตั้งแต่ถนนราชดำเนิน ถึงสะพานผ่านพิภพลีลา และสนามหลวง มีพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 รับผิดชอบพื้นที่ และส่วนที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหากรณีมีผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ตามที่พูดคุยกันไว้ มี พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. ดูแลภาพรวม ทั้งนี้ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 34 กองร้อย หรือประมาณ 5,100 นาย ดูแลความเรียบร้อย เบื้องต้นไม่มีการวางเครื่องกีดขวาง แต่บางจุดจะจัดแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนและยึดหลักสิทธิเสรีภาพ ใช้มาตรการไม่รุนแรง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับที่มีการนำรถโดยสารประจำทาง ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มาใช้กีดขวางกลุ่มผู้ชุมนุม ที่สหภาพ ขสมก.คัดค้านนั้น ทุกครั้งจะมีการหารือกับตัวแทนของ ขสมก. งก่อนที่จะนำมาใช้กีดขวาง และทาง ขสมก. เป็นผู้อนุญาต ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดความเสียหาย ที่ผ่านมาเคยนำรถที่เสียหายไปเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ใครเป็นผู้กระทำให้เสียหายผู้นั้นต้องชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนการชุนนุมในวันที่ 14 พฤศจิกายนจะมีการใช้รถเมล์มากีดขวางอีกหรือไม่ ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ยืนยันไม่ได้ปัดความรับผิดให้กลุ่มผู้ชุมนุม

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีการชุมนุมกิจกรรมราษฎรสาสน์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่่ผ่านมา ซึ่งมีการนำตู้ไปรษณีย์จำลองมาใช้นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นคดีพื้นที่สน.สำราญราษฎร์ คดีฝ่าฝืน พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ มีผู้ต้องหา 14 คน และส่วนที่ 2 ในพื้นที่สน.ชนะสงคราม เกี่ยวกับพ.ร.บ. ความสะอาด เจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจเขตพระนคร ร้องทุกข์โดยพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว 3 คน เป็นคนเอาตู้ไปรษณีย์แดงเข้ามาในพื้นที่ เมื่อคดี พ.ร.บ.ความสะอาดเรียบร้อย จึงจะส่งหลักฐานไปยัง สน.สำราญราษฎร์ เพื่อตรวจสอบข้อความในจดหมายประกอบคดีความผิด ตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะต่อไป

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิของทุกคนตามกฎหมาย แต่ก่อนจะมีการชุมนุมอยากให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ดี มีสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขตามกฎหมาย เช่น การแจ้งการชุมนุม การทำให้การชุมนุมปราศจากอาวุธ และชุมนุมด้วยความสงบ ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น โดยจะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ไว้ โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์

ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 14 พฤศจิกายน  เส้นทางจราจรที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง คือ ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนจักรพรรดิพงษ์ ถนนหลานหลวง ถนนดินสอ ถนนตะนาว สะพานพระราม 8 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า คาดว่าจะมีผลกระทบตั้งแต่เวลา 12.00 น.

นายวันชัย สอนศิริ  ส.ว. ให้สัมภาษณ์กรณีม็อบเฟสต์วันที่ 14 พฤจิกายนนี้เชิญชวนให้ส.ส.และส.ว.เข้าร่วมสังเกตการณ์ชุมนุมว่า ตนไม่ไป การชุมนุมเป็นเรื่องของภาคประชาชน ส่วนตนมีหน้าที่ในรัฐสภาก็ทำหน้าที่ในรัฐสภาไป มุ่งมั่นทำหน้าที่ของเราด้านนิติบัญญัติ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก) กล่าวว่า วันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ หาก ส.ส.ของพรรคคนไหนไม่ติดภารกิจจะไปเฝ้าสังเกตการณ์ชุมนุม เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมว่าเจ้าหน้าที่จะมีการใช้ความรุนแรงเกินเหตุ โดยให้ส.ส. ถ่ายภาพในมุมต่างๆ พร้อมบันทึกช่วงเวลา เพื่อเป็นหลักฐาน

ส่วนกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานต่อครม.ถึงความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร พร้อมประเมินการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามวลชนกลุ่มราษฎรอ่อนแรงลงนั้น นายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร2563 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “รัฐพยายามบอกว่าราษฎรอ่อนแรงลง รัฐก็ลองทำอะไรโง่ๆ จังๆ อีกสักครั้งนึงสิครับ จะได้รู้ว่าที่เคยเห็นมันยังไม่ใช่จุดสูงสุดของการชุมนุม ไม่เชื่อลองถามคนข้างๆ ดู ถามลูกหลานของท่านดู ว่าเขาไปม็อบมาหรือเปล่า จุดสูงสุดของการชุมนุมยังไม่เกิด เพราะเงื่อนไขและปัจจัยยังไม่สุกงอม ซึ่งเราไม่ได้รอการสุกงอม แต่เราจะขยมไปเรื่อยๆ เมื่อยก็พัก และก็มาขย่มอีกครั้ง นี่แค่การสลัดความกลัวออกมาเดินตามหาอนาคต และนี่แค่การเริ่มต้น !!!”