ส.ว.สมชาย ระบุตร.ใช้แก๊สน้ำตา-สารเคมีผสมน้ำฉีดใส่ม็อบ ไม่อันตราย-แค่ยาป้ายเด็ก

ส.ว.สมชาย แสวงการ ป้องตร.ใช้แก๊สน้ำตา-สารเคมีผสมน้ำฉีดใส่ม็อบ ไม่อันตราย-แค่ยาป้ายเด็ก ถามตำรวจทำไมต้องขอโทษฉีดน้ำสลายชุมนุม 8 พ.ย.

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.63 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงการเข้าชี้แจงของตำรวจเกี่ยวกับการสลายการชุมนุม ที่แยกปทุมวันว่า

จากการประชุมกมธ.เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันจากตำรวจว่า ขั้นตอนในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่แยกปทุมวันนั้น เป็นไปตามขั้นตอนสากล เหตุที่ต้องสลายการชุมนุมเป็นเพราะอยู่ใกล้วังสระปทุม ในรัศมี 150 เมตร โดยได้แจ้งเตือนก่อนฉีดน้ำแล้ว และน้ำที่ฉีดในครั้งแรกเป็นน้ำเปล่า แต่เมื่อฉีดแล้วไม่ได้ผล ตำรวจจึงขอคำสั่งใช้น้ำผสมสารเคมีฉีด ซึ่งสารเคมีที่ใช้เป็นสารเคมีสีม่วงเหมือนยาป้ายปากเด็ก เพื่อให้สีติดกับผู้ชุมนุม แต่ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย โดยใช้สัดส่วนที่ใช้น้ำ 97 เปอรเซ็นต์ สารเคมี 3 เปอร์เซนต์ ฉีดไป 3 ครั้ง แต่ผู้ชุมนุมยังไม่สลายตัว กลับมีการใช้คีมตีเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงขอบังคับใช้คำสั่งเพิ่มเติม โดยใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตาในสัดส่วนเจือจางน้ำ 97 เปอร์เซ็นต์ แก๊สน้ำตา 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีอันตราย จะมีแค่คันตามผิวหนังเล็กน้อย หากเข้าตาอาจมีแสบตาบ้าง

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ชี้แจงด้วยว่า ถ้าใช้โล่ดันหรือกระบองตีจะแรงกว่านี้ แต่ตำรวจใช้แค่น้ำฉีดเท่านั้น จึงไม่มีประชาชนบาดเจ็บ ถือเป็นการกระทำที่เหมาะสม ซึ่งกมธ.ไม่ได้ติดใจคำชี้แจงของตำรวจ แต่มีข้อแนะนำว่าควรประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการสลายการชุมนุมให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบชัดเจน

ส่วนกรณีการฉีดน้ำสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่สนามหลวง จนเจ้าหน้าที่ต้องขอโทษผู้ชุมนุมนั้น ทางกมธ.ได้สอบถามว่าจะขอโทษทำไม ทั้งที่ผู้ชุมนุมกำลังจะเข้าเขตพระราชวัง ยืนยันว่าการทำงานขอกมธ.ไม่ได้ต้องการฟอกขาวให้เจ้าหน้าที่ เพียงแต่ให้รู้ว่าการทำงานทุกอย่างของเจ้าหน้าที่ อยู่ในสายตาของกมธ. และในสัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญศาลและอัยการมาให้ข้อมูลต่อไป