“สุดารัตน์” จี้รัฐเร่งแก้ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ชี้ประกันราคาสินค้า ออก “ช้า” เกินไป จนช่วยไม่ทัน

“สุดารัตน์” จี้รัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกตำ่อย่างเร่งด่วน โดยเห็นว่า โครงการประกันราคาสินค้าเกษตร ออกมา”ช้าเกิน”ไป ช่วยชาวนาในภาคอิสานไม่ทัน หลังลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกรที่ จ.สกลนคร พบ ราคาข้าว ราคายางพาราตกต่ำ ไม่คุ้มทุนการผลิต ทำชาวนา ชาวสวน ขาดทุน แบกภาระหนี้สิน หวังรัฐแก้ปัญหาจริงจัง

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ที่อำเภอ โคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานสถาบันสร้างไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาราคาข้าว ราคายางพาราจากเกษตรกร โดยพบข้อเท็จจริงจากเกษตรกรในอำเภอโคกศรีสุพรรณ สะท้อนว่า ราคาสินค้าเกษตรต่างๆตกต่ำมาก เช่นยางพาราประมาณกก. ละ 18 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันต้องประสบปัญหาต้นยางเกิดโรคทั้งเปลือกเน่าเปลือกแตก

ขณะที่ราคาข้าวก็ต่ำ ข้าวหอมมะลิเกวียนละประมาณ 9,000 บาทเท่านั้น ชาวนาต่างร้องทุกข์เป็นเสียงเดียวกันว่าขาดทุนอย่างหนัก แถมช่วงนี้ฝนตก ตากข้าวไม่ได้ ข้าวมีความชื้นสูงจึงยิ่งถูกกดราคาให้ถูกลงไปอีก

“เป็นราคาที่ไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ขาดทุนเยอะมาก อยากให้รัฐช่วยดึงราคาขึ้นอีกหน่อย หรือราคาที่เกษตรกรจะอยู่ได้อยากได้ตันละ 15,000 บาท ไม่เช่นนั้นชาวนาอยู่ไม่ได้ และอาจจะได้ขายนาเพิ่มแทนขายข้าว” เกษตรกร ชาวนา กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าอยากให้รัฐบาลลงมาแก้ไขอย่างจริงจัง และจริงใจ กับเกษตรกร อย่าง”โครงการประกันราคาสินค้าเกษตร” ที่มีมติ

ครม. ว่าจะประกันราคาข้าวในราคาเกวียนละ 15,000 บาท สำหรับข้าวหอมมะลิ และยางแผ่นลมควัน กิโลกรัมละ 60 บาท ยางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 23 บาท

แต่ขณะนี้เกษตรกรต้องขายข้าวหรือยางในราคาที่ต่ำมาก โดยยังไม่มีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ หรือแม้แต่ขบวนการเพื่อรับสิทธิ์ประกันราคา ก็ยังไม่มีในพื้นที่เกษตรกรรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก จึงขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรภาคอิสานโดยด่วน

“โดยส่วนตัวหลังจากลงพื้นที่ ดิฉันเห็นว่า “โครงการประกันราคาพืชผลเกษตร”ของรัฐบาลออกมา”ช้า”เกินไป โดยเฉพาะใน ภาคอีสาน ที่ชาวนาได้เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวแล้วฝนก็ตก ทำให้ตากข้าวไม่ได้ ต้องรีบขาย จึงถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาตำ่มากๆ ขายได้เพียงกิโลละ 5-7 บาท เท่านั้น ราคายางพาราก็เช่นกัน ขณะที่ราคาในตลาดสูงถึงกิโลกรัมละ 60 บาท แต่เกษตรกรขายได้เพียงกิโลกรัมละ 18 บาทเท่านั้น เพราะกลไกการตลาดถูกบิดเบือนโดยกลุ่มทุน 5 เสือ ที่คุมราคายางทั้งประเทศ โดยรัฐบาล็นิ่งเฉย ละเลยต่อการแก้ปัญหาที่ต้นตอ”

จึงขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรภาคอิสานโดยด่วน โดยเฉพาะชาวนาที่ขายข้าวไปแล้ว ก่อนโครงการประกันราคาจะออกมา

รวมทั้งเงินช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนการผลิตที่รัฐบาลได้สัญญาว่าจะให้เกษตรกรไร่ละ 500 บาท ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้เก็บเกี่ยวแล้ว ก็ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวเลย

“ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรไม่ได้ต้องการเงินที่แจกฟรีจากรัฐบาล แต่ต้องการให้รัฐบาลบริหารจัดการให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคายุติธรรม ไม่ต้องการสัญญาที่ทำไม่ได้จริง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว