วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 นายสงคราม กิจเลิศ ไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เปิดเผย ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศตัด สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ GSP กับสินค้าไทย คิดเป็นมูลค่าราว 18,000 ล้านบาท จากเดิมสหรัฐฯ เคยตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยไปแล้ว เมื่อเดือนเมษายน 2563 ส่งผลกระทบกับมูลค่าสินค้าไทยไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท จึงเท่ากับว่าสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 58,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในรอบแรกสหรัฐเปิดให้รัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐแต่รัฐบาลไทยไม่สามารถที่จะทำให้สหรัฐมั่นใจในการแก้ปัญหาของไทยจึงต้องเพิ่มบทลงโทษกับไทยเพิ่มขึ้น ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์บอก โดนัลด์ ทรัมป์ ยกให้ไทยเป็นมหามิตร

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า การถูกสหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิ GSP ติดกันถึงสองครั้ง ในรอบปี เป็นผลมาจากการทำงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ และ ชัดเจน ว่า เวทีการค้าทั่วโลก ไม่ยอมรับรัฐบาล ที่มาจากการทำรัฐประหาร ทั้งนี้ชัดเจนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และทีมเศรษฐกิจ ไร้ความสามารถและไม่มีความสำคัญในสายตาสหรัฐฯ

“รัฐบาลไม่ได้รับการยอมรับจากวงการการค้าโลก เพราะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ผู้นำหลายประเทศไม่ให้ราคาพลเอกประยุทธ์ นอกจากนี้ทั่วโลกจับตาสถานการณ์ประชาธิปไตยของประเทศ ผลจากการที่รัฐบาลจับกุมคุมขังนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยอย่างสันติ ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในขณะนี้เป็นประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรมมีปัญหา ผู้นำของไทยจึงมีภาพลักษณ์ที่ติดลบบนเวทีโลก ” นายสงคราม กล่าว