‘ชูศักดิ์’ งง กรรมการสมานฉันท์เป็นเรื่องของสภาหรือ รบ. ส่วนส่งชิงนายก อบจ. รอความชัดเจนจาก กกต. ก่อน

‘ชูศักดิ์’ งงอยู่ว่ากรรมการสมานฉันท์เป็นเรื่องของสภาหรือ รบ. ชี้จะเข้าร่วมพิจารณาเงื่อนไขหลายข้อ ส่วนปมส่งนายก อบจ. รอความชัดเจนจาก กกต. ก่อนสรุปอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีสภาได้มอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าคิดหารูปแบบของกรรมการสมานฉันท์ที่จะมีขึ้นว่า ฟังมาตอนแรกๆ เข้าใจว่ารัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ ฝ่ายค้านโดยรวมจึงพร้อมใจกันปฏิเสธการเข้าร่วม เพราะมองว่าเป็นการซื้อเวลา และรัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว และยืนยันว่านายกฯจะต้องลาออก แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนไปโดยสภารับมาเป็นเจ้าภาพเสียเอง แต่การมีกรรมการแบบนี้ ก็ต้องดูว่าองค์ประกอบของกรรมการจะมาจากส่วนใดบ้าง มีความเป็นกลางขนาดไหน สภาพของกรรมการเป็นคู่ขัดแย้งหรือไม่ ฝ่ายไหนน้อยมากกว่ากันเพียงใด มีตัวแทนประชาชน นักศึกษาเข้าร่วมหรือไม่ ส่วนใหญ่กรรมการประเภทนี้เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้เองเพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ จึงมักจะมีข้อเสนอให้รัฐบาลไปปฏิบัติ แล้วรัฐบาลจะปฏิบัติหรือไม่ หากกรรมการเสนอให้นายกฯลาออก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของปัญหาแล้วนายกฯจะลาออกหรือไม่ ตนจึงไม่แน่ใจว่าจะบังเกิดผลเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ต้องดูว่าโจทย์ของประเทศคืออะไร ตีโจทย์แตกหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าโจทย์ใหญ่คือการยึดอำนาจ สืบทอดอำนาจ ผ่านรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย บริหารจนประเทศแตกแยกแตกเป็นเสี่ยง รุนแรงหนักกว่าเก่า ถ้าตั้งโจทย์ถูกคำตอบก็ไม่ยากว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วรัฐบาลจะทำหรือเปล่า ตนคิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องดูเรื่องนี้ให้ถ่องแท้เสียก่อน ก่อนที่จะบอกว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม

เมื่อถามถึงกรณีการส่งผู้สมัครนายก อบจ. ของพรรค พท. นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตนยังคงยืนยันว่าสามารถส่งในนามพรรคได้เพราะไม่มีกฎหมายห้าม แถมยังมีกฎหมายและระเบียบบอกไว้อีกว่าถ้าจะใช้ตราสัญลักษณ์ของพรรคต้องได้รับความยินยอมจากพรรค แสดงว่าส่งในนามพรรคได้ ที่ผ่านมาก็ส่งกันหลายพรรคก็เห็นๆ กันมาแล้ว ขณะนี้มีปัญหาคือการที่ ส.ส.จะไปช่วยหาเสียงกรณีที่ไปเขียนไว้ห้ามใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปช่วยผู้สมัคร จริงๆ ถ้าอ่านให้ครบเขาบอกว่าโดยมิชอบด้วยหน้าที่และอำนาจ ตนยังเห็นว่าไปช่วยหาเสียงได้ แต่เราก็ถามไปที่ กกต.ขอความชัดเจนในการตีความ ตอนนี้เลยบอก ส.ส.ของเราว่าอย่าเพิ่งลงไปช่วยผู้สมัคร แม้จะลงในนามพรรคก็ตามเพื่อรอความชัดเจนจาก กกต.ก่อน