จับตาแรงงานไทย บีบเซ็น “ลาออก” เลี่ยงจ่ายชดเชย

กระทรวงแรงงานสรุปสถานการณ์แรงงานล่าสุด (ส.ค. 2563) ว่ามีกำลังแรงงานรวม 38.83 ล้านคนมีงานทำ 38.05 ล้านคน ในขณะที่จำนวนผู้ว่างงาน 7.24 แสนคน มีแรงงานรอฤดูกาล 6.24 หมื่นคน มีผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน 18.05 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์แรงงาน ช่วงเดียวกันของปี 2562 พบว่ามีผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 4.3 แสนคน (จาก 37.62 ล้านคน เป็น 38.05 ล้านคน แต่ยังคงมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.42 แสนคน จากเดิมที่ 3.82 แสนคน เป็น 7.24 แสนคน)

นอกจากนี้ ยังมีผู้อยู่นอกกำลังแรงงานลดลง 4.9 แสนคน จากเดิมที่ 18.54 ล้านคน เป็น 18.05 ล้านคน

สำหรับในจำนวนว่างงานที่ 7.24 แสนคนนั้น คิดเป็น 1.9% ของแรงงานรวมทั้งหมด แบ่งเป็น 1) ผู้ไม่ได้ทำงาน และไม่มีงานประจำ แต่ได้หางาน หรือรอรับการบรรจุเข้าทำงานในระหว่าง 30 วันก่อนวันสัมภาษณ์งาน และ 2) ผู้ไม่ได้ทำงาน และไม่มีงานประจำ และไม่ได้หางานทำในระหว่าง 30 วัน ก่อนวันสัมภาษณ์ ในส่วนของจำนวนผู้มีงานทำในระบบ 38.05 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ทำงานในภาคการบริการและการค้า 17.45 ล้านคน ภาคเกษตรกรรม 12.13 ล้านคน และภาคการผลิต 8.47 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของประเทศ ปัญหาแรงงานยังไม่จบง่าย ๆ สังเกตจากกลุ่มสหภาพแรงงาน หรือกลุ่มแรงงานต่าง ๆ ยังคงยื่นหนังสือพร้อมหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ว่างงานกับ “สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นสถานประกอบการหลายแห่งที่ต้องปิดกิจการ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง และยกเลิกการจ้างงานอย่าง “ไม่เป็นธรรม” อ้างว่าจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ไม่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ ทำให้ต้องตัดสินใจปิดกิจการในที่สุด

ยกตัวอย่างกรณีของ “กลุ่มแรงงานเพื่อสังคม” นำโดย “ชาญศิลป์ ทรัพย์โนนหวาย” ในฐานะประธานกลุ่มเมื่อเร็ว ๆ นี้เข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ใน 3 เรื่อง ไล่เรียงได้

คือ 1) ขอกู้ คือให้ผู้ประกันตนขอกู้เงิน แม้ว่าจะติดแบล็กลิสต์อยู่ และไม่กำหนดกติกาที่ปิดกั้นสิทธิของผู้ประกันตน

2) ขอเลือก ในการส่งเงิน และอื่น ๆ และเมื่อได้สิทธิไม่ควรมีเงื่อนไขในลักษณะการต่อรอง

และ 3) ขอคืนเงินประกันสังคมที่ไม่น้อยกว่า 30% ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้

นอกจากการยื่นข้อเสนอของกลุ่มแรงงานเพื่อสังคมแล้ว ยังมีลูกจ้างที่เข้ามาร้องเรียนกรณีถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ยกตัวอย่างเช่น บริษัท วายชิอินา ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตพลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติก และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และบริษัท บอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (สาขานครสวรรค์)

วิธีการของนายจ้างคือนายจ้าง “บีบบังคับ” ให้เขียนใบลาออกแต่ลูกจ้างได้ร้องขอให้นายจ้างออกเอกสาร “เลิกจ้าง” เพื่อนำไปขึ้นทะเบียนกรณีว่างงาน และรับเงินจากกองทุนประกันสังคมเท่านั้น แต่ทางเลือกของลูกจ้างคือ “เขียนใบลาออก” เพื่อให้ได้เงินประกันการทำงานคืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะตกงาน

สำหรับประเด็นเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมดังกล่าว ยังมีการร้องเรียนไปถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ตั้งของสถานประกอบการข้างต้นได้ส่งหนังสือถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนจากการถูกเลิกจ้างอีกด้วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาอีกคือมีกรณีที่นายจ้างอ้างเหตุ “ไม่ต่อสัญญา” ให้ลูกจ้าง ส่งผลให้ลูกจ้าง “พ้นสถานะลูกจ้าง” ซึ่งในทางกฎหมายถือเป็นการเลิกจ้าง โดยไม่ต่อสัญญาจ้าง ในลักษณะงานที่ต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำงานเป็นช่วงฤดูกาล ฉะนั้น ต้องนับอายุงานต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนครั้งของการต่อสัญญา และต้องนับอายุงานรวมกันทั้งหมด (ตามมาตรา 20) ที่ระบุไว้ว่านายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย ตามที่กฎหมายระบุไว้ตามคุณสมบัติอายุงาน รวมถึงสิทธิจากกองทุนประโยชน์ ทดแทนกรณีว่างงาน และนายจ้างต้องแจ้งเหตุให้สำนักงานประกันสังคมรับทราบว่าเป็นการหมดสัญญาจ้าง

และยังมีการหยิบยกกรณีผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี ไม่มีบริษัทใดรับเข้าทำงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะต้องปรับแก้ไขกฎหมายให้ผู้ประกันตนในส่วนนี้ได้มีงานทำได้ต่อไปในอนาคต

“ชาญศิลป์” ระบุเพิ่มเติมว่าการดำเนินการดังกล่าวของนายจ้างนั้น ถือเป็นการทำผิดกฎหมายคุ้มครองแรงงานเพียงเพื่อเป็นช่องทางในการประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าจ้าง ค่าชดเชย ให้กับผู้ประกันตน อีกทั้งนายจ้างส่วนใหญ่คิดว่าแรงงานที่ถูกเลิกจ้างไม่มีความสามารถที่จะฟ้องร้องนายจ้างได้ ส่งผลให้นายจ้างลอยตัวเหนือปัญหาได้

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าได้มองเห็นปัญหาของผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกันตนในระบบของสำนักงานประกันสังคมได้ชัดเจนถึงเนื้อในได้มากขึ้น โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานทั้งหมด ที่ล้าสมัย และควรปรับแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น กฎหมายประกันสังคม และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

 


โค้งสุดท้ายกับโปรโมชั่นเอาใจคอนิตยสารในเครือมติชน

สมาชิกตลอดปีลดทันที 40%
.
มติชนเอาใจนักท่าน จัดโปรโมชั่นให้กับผู้สมัครนิตยสารในเครือมติชน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 31 ตุลาคม 2563 ที่ลดราคาพิเศษมากถึง 40% จัดส่งลงทะเบียน ได้แก่
.
📷มติชนสุดสัปดาห์ 52 ฉบับต่อปี
จากราคา 3,692.- เหลือเพียง 2,652.-
*รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
[https://cutt.ly/wgo32TT](https://cutt.ly/wgo32TT?fbclid=IwAR04elXa3x7sarnLW6XV_rpaz_iBPRjklMsARiSFCmwI8bPV2XvtUFpz9cU)
.
📷ศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับต่อปี รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
จากราคา 1,692.- เหลือเพียง 1,116.-
*รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
[https://cutt.ly/8go39qV](https://l.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fcutt.ly%2F8go39qV%3Ffbclid%3DIwAR1_bNE5QNkuUrUk6AWV4IErd2yJV8C_KxbMMGSNF8uuBEyv5zeMizXPOxA&h=AT1cca8T767PgQR-dUL9viQ1qaiYSrdmaaW9dZDtCLJMj3kbmKG8yPlD6Lq7C8CP64TXzlRK-G-9iqvTLMMLhaA6c6QR56P1rhwurkRDtYJfHQkxt2EETYa9RXxdrTarfmUX&__tn__=-UK*F)
.
📷เทคโนโลยีชาวบ้าน 24 ฉบับต่อปี รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
จากราคา 1,704.- เหลือเพียง 1,224.-
*รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
[https://cutt.ly/cgo39D2](https://l.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fcutt.ly%2Fcgo39D2%3Ffbclid%3DIwAR3nl3HmZQY84OGLn5Vc3NCx171_Z1ZOvM6MgJxSO6wx6jpjp-pTJuhTrCE&h=AT0SV643sUGwxQ_ruE9zOfxa3FiVXunxX6fu2is3d9XgyM9wIvdcudrui57szQKMjSRDq-6ZB0YWalSeCg1y9dmeY8GjhXv_WATOMRXhBnZAilZ5EA8W7NfGP7UsZff6tpjG&__tn__=-UK*F)
.
📷สมาชิกนิตยสาร 3 ปกรายปี ประกอบด้วย
– นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์รายปี (52 ฉบับ)
– นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปี (24 ฉบับ)
– นิตยสารศิลปวัฒนธรรมรายปี (12 ฉบับ)
.
จากราคา 7,088.- เหลือเพียง 4,992.-
*รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
[https://cutt.ly/qgo8uAY](https://l.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fcutt.ly%2Fqgo8uAY%3Ffbclid%3DIwAR3u7VdRS2d10lbrzDE9GIlXmQPQDBPbt8VEyVqPVVLtQcecsnS3D5o-pXU&h=AT2JZSVkP3xc6ZAYXUEhYE5-OoU9GZpqfHNrMZlbESEZ3WC3r6GeJSIBrCREr46o_XiAPxn_c_AMY4bpyY0yFXRWV6PbC9n4yake5awbYZxj8YKhekmyI2uejHsfhhar8Rki&__tn__=-UK*F)
.
.
ดูโปรโมชั่นพ็อกเก็ตบุ้คและนิตยสารต่างๆ ได้ที่ [www.matichonbook.com](https://l.facebook.com/l.php?u=http%3A%2F%2Fwww.matichonbook.com%2F%3Ffbclid%3DIwAR2Uq1niVpjq0kG5tUTK8MPPt_eU5Sl6MrpFgUOWG3dGqTEJYRidtfPrgms&h=AT2ApMefnkFj0WaHM-IguZ_FsN4TSvnJTkmkPRjmiWsZT8DETR8kRqI19OrJRUy6bNuCqq3tgDXFb1NCojzfwKawg7Cdtx7RmIOWjCMpUTuD0WmrszBFZZFOWjrktJfn40E7&__tn__=-UK*F)
.
ห้ามพลาด
สมัครสมาชิกนิตยสารในเครือมติชน
ลดราคาพิเศษ 40%
ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 31 ตุลาคม 2563