‘ประยุทธ์’ ลั่นไม่ลาออก! ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่ไม่ละทิ้งหน้าที่ยามบ้านเมืองมีปัญหา พ้อมาไล่ทุกวัน

พล.อ.ประยุทธ์ ลั่นไม่ลาออก ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง ชี้ไม่ละทิ้งหน้าที่ยามบ้านเมืองมีปัญหา พ้อมาไล่ทุกวัน ขอความเป็นธรรมบ้าง

เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 27 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ในฐานะนายกฯ และรมว.กลาโหม ทั้งช่วงที่เป็นรัฐบาลก่อนหน้านี้ และในปัจจุบัน หลายอย่างที่ทางสภาโดยเฉพาะผู้ที่ไม่ค่อยเห็นชอบกับตนหลายเรื่อง พูดจาโจมตีตนสม่ำเสมอก็เป็นธรรมดา และหลายประการบิดเบือน ก็ไม่เป็นไรตนรับได้ ทางฝ่ายรัฐบาลก็ชี้แจงอยู่ตลอดทุกเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่กล่าวหาว่าตนต้องลาออกเพราะบริหารประเทศล้มเหลว หากย้อนไปปี 2549 – 2557 มีการชุมนุมถามว่ามีทางออกหรือไม่ อย่าลืม ส่วนการชุมนุมตนรักลูกหลานทุกคน ตนรักเด็ก นิสิตเป็นพลังแผ่นดินในวันข้างหน้า แต่เราควรสร้างความเข้าใจกันได้หรือไม่ ควรมีการชี้นำกันที่ถูกต้องสงบ ตนยอมรับฟังเสียงของทุกคน มีทั้งทำได้ทำไม่ได้ ส่วนกรณีชุดนักเรียนถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่เด็กๆ เคยมีการชี้แจงว่าการแต่งชุดนักเรียนเพื่อประหยัด ไม่แตกต่างคนรวยคนจน ส่วนทรงผมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยว่าไปเดินตามพื้นที่ต่างๆ นอกเวลาเรียนจะได้ไม่ถูกทำร้าย แต่วันนี้โลกเปลี่ยนตนก็ยอมรับได้ ทุกอย่างมีอดีตมีความเป็นมาทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการที่บอกว่ามีการใช้โซเชียลมีเดียขับเคลื่อน ตนในฐานะรมว.กลาโหม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ทราบว่าการแจ้งข้อความต่างๆ มีคนโพสต์ครั้งแรก 200 คนจากนั้นไม่กี่นาทีเพิ่มเป็น 5 หมื่นคน จากแอคเคาท์เดิม ตนก็ไม่ทราบว่าใช้เทคโนโลยีอะไร ตัวเลขที่ออกมาจากระยะที่หนึ่ง สอง สาม เท่ากันหมดมีเครือข่ายหรือไม่ตนไม่แน่ใจ มีการใช้ระบบเอไอในการโพสต์ข้อมูลต่างๆ หรือไม่ ตนก็แจ้งเพื่อทราบซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรวจสอบได้ ไม่ได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใดๆ การที่จะบอกว่ารัฐบาลปิดกั้นตนไม่ปิดกั้น แต่ถ้าละเมิดจนเกินไปไม่สุภาพตนคิดว่าสังคมรับไม่ได้ สุดท้ายตนขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ช่วยหาทางออกให้รัฐบาล ตนห่วงประเทศชาติของเราเหมือนที่ทุกท่านเป็นห่วงว่าจะเป็นอย่างไร จะเดินไปทางไหน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการควบคุมสถานการณ์โควิด – 19 ว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์แห่งการท่องเที่ยว วันนี้เราเปิดประเทศได้แล้วแต่เปิดโดยใช้ความระมัดระวัง วันนี้มีคนต้องการเข้าประเทศไทยอีกเป็นพันเป็นหมื่นราย เราจำเป็นต้องจัดเที่ยวบินมีการเจรจากับประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย ความสำเร็จนี้คนไทยช่วยกันสร้างช่วยกันประคับประคองประเทศได้ แต่จากการชุมนุมในกรุงเทพมหานคร ตนไม่โทษเขา แต่มีอะไรหรือเปล่าตนไม่ทราบ แต่หลายคนอาจจะทราบ สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่กำลังขับเคลื่อนในการสร้างความเชื่อมั่น วันนี้เรามีมาตรการผ่อนคลายอีกหลายอย่าง วันนี้ถ้าท่านไม่ฟังท่านก็ไม่เข้าใจ โจมตีรัฐบาลอยู่ร่ำไป แต่ตนรับได้ เรื่องนี้นำมาสู่ความแตกแยกในสังคมโดยเฉพาะสถาบันครอบครัว

“นอกจากนี้ กลุ่มที่ถูกชักชวนในโลกโซเชียลมีเดีย ทุกวันนี้มีกลุ่มจับอุปนิสัยของกลุ่มคนเปราะบางเหล่านั้น เขาจับกลุ่มทั้งหมดว่านิสัยคนเสพกลุ่มโซเชียลมีเดียเป็นอย่างไรจนรู้จักนิสัย จนทำให้กลุ่มเป้าหมายนำไปใช้ประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางของเรา ให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามที่อีกฝ่ายต้องการ ท่านอ่านได้ โพสต์ได้ ฟังได้ เแต่อย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็นที่ฟัง ท่านต้องมีสติปัญญาของท่านเองในการรับข้อมูล”

ขอประชาชนสนใจเรื่องเหล่านี้ซึ่งสังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ เพื่อที่จะเข้าใจว่ากลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนำคนกลุ่มเปราะบางไปปรุงแต่งความคิดได้เสมอ ซึ่งไม่คุ้มเราจะเสียใจต่อการกระทำในวันข้างหน้า จึงให้ระวังข้อมูลในการเผยแพร่ไปต่างประเทศ ตนได้รับข้อมูลจากนักข่าวข้างล่างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักครู่ว่ามีเบื้องหลังพอสมควร ช็อตเด็ดเพื่อจะแพร่ไปสู่เวทีโลกให้มีเลือดตกยางออก ตนก็เสียใจเพราะไม่เคยเกิดขึ้นในสภามาก่อน”

นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนยินดีร่วมมือในการแก้ปัญหา แต่เราต้องไม่ลิดรอนสิทธิของคนอื่น ตนเห็นด้วยกับแนวทางตั้งคณะกรรมการ เพื่อนำไปสู่แนวทางพูดคุยหาทางออกกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล รัฐสภา ผู้เห็นต่าง หรือกลุ่มใดก็แล้วแต่ ซึ่งต้องนำสู่การปฏิบัติให้ได้ ก็ไปหามาว่าจะหาใครมาร่วม ตนก็กังวลว่าจะเจรจาคุยกับใคร ใครเป็นหัวหน้า เพราะทุกคนเป็นหัวหน้าหมด ข้อเรียกร้องใดพิสูจน์ได้ว่าเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในประเทศตนขอสงวนสิทธิ ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญอยู่ในขั้นตอนของรัฐสภาอยู่แล้ว ต้องไปถามคนร่างรัฐธรรมนูญตนไม่ได้เป็นคนร่าง

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องการลาออก ตนไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง บางครั้งท่านก็พูดด้วยอารมณ์ของท่านไปบ้าง ก็มาไล่ตนทุกวันก็ให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง ตนจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา จะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยการลาออกยามที่บ้านเมืองมีปัญหา ตนจะยังแก้ปัญหาต่างๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไขอยู่ หลายคนบอกรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ตนถามว่าถนน รถราง รถไฟฟ้าเกิดขึ้นมากแค่ไหน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่กู้เงินก็เพราะโควิด-19 ท่านอย่าเอาตัวเลขมั่วๆมาพูด ตนไม่ใช่คนที่ฟังคนเพ็ดทูนอย่างเดียว ใครมาแบบนั้นตนด่าไล่กลับทุกคน เพราะตนอ่านเองได้ ตนไม่ได้บริหารงานอยู่บนหอคอยอย่างที่ท่านคิด เรื่องรัฐธรรมนูญก็มีจุดยืนอยู่แล้ว การได้ชัยชนะกันท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมือง ตนถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ จะไม่เหลืออะไรอีกเลย สิ่งที่ท่านคาดหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงดุลแห่งอำนาจก็จะไม่เหลือให้ท่านแม้แต่น้อยนิด กรรมใดใครก่อก็รับไป จะทำบุญทำกุศลก็ไม่มีใครช่วยได้ ตนจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไปจนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำชัดมั้ยครับ