ภูมิใจไทยหนุนเต็มที่ ตั้งกก.กลางจากทุกฝ่าย ถกทางออกการเมือง ย้ำเอาผิดคนหมิ่นสถาบัน

ภท.หนุนตั้งกก.แก้วิกฤต แนะรบ.ต้องจริงใจรับฟัง อย่าไปสั่งสอน ชี้ ศก.สังคมปากท้อง คือเป็นหลัก ทำคนรุ่นใหม่มาชุมนุม

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ต่อเป็นวันที่ 2

จากนั้น 13.00 น. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทุ่มเทแก้ปัญหาให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากโควิด-19 แต่แทนที่เราจะได้มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อ แต่ต้องกลับเผชิญปัญหาใหม่คือ ความขัดแย้งในบ้านเมืองที่ไม่ใช้ความขัดแย้งเพื่อแสวงหาอำนาจในบ้านเมือง โดยไม่ปรากฏแกนนำอย่างชัดเจน ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่่ออกมาเรียกร้องประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจปากท้องเป็นหลัก จากความรู้สึกที่ไม่มั่นใจถึงอนาคตว่า จะมีกิน มีงานทำได้อย่างไร ถ้าฝ่ายการเมืองแบบพวกเรา ทำสิ่งที่ไม่โปร่งใส บริหารงบประมาณแผ่นดินแบบไม่เป็นธรรม ทั้งนี้เราต้องยอมรับว่า สังคมไทยมีช่องว่างทางความคิดที่ต่างกันมาก ซึ่งตามข้อเสนอที่ให้มีการเจรจาพูดคุยกันนั้น เราต้องเปิดใจกว้างรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ใช้การสั่งสอน หรือการไปตัดสินใจถึงจะแก้ปัญหาใดๆ ดังนั้น หากในที่สุดถ้ามีการตั้งกรรมการขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาพูดคุยกันนั้น พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนเต็มที่ โดยไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม อย่างไรก็ก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงวันนี้คือ การกระทำจาบจ้วงสถาบันเกินกว่าที่คนจงรักภักดีจะยอมรับได้ เหตุการณ์ที่สถานทูตเยอรมัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมตรงไปตรงมา ต้องไม่ละเว้นดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่หมิ่นสถาบัน โดยต้องแยกให้ออกระหว่างผู้ที่มาชุมนุมกับผู้ที่เป็นแกนนำในการดำเนินการเรื่องนี้