‘ก้าวไกล’ เสนอ 2 ญัตติด่วน ขอตั้ง กมธ.สอบข้อบกพร่องเส้นทางขบวนเสด็จ-ผลกระทบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

‘ก้าวไกล’ เสนอด่วน 2 ญัตติ สอบขบวนเสด็จ-การใช้อำนาจพรก.ฉุกเฉินฯ วอนสภาเห็นชอบรับรองเพื่อถวายพระเกียรติยศ

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวเสนอ 2 ญัตติด่วน คือ 1.ญัตติเสนอตั้งกรรมธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่อง กรณีกำหนดเส้นทางขบวนเสด็จและถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.สุพิศาล และ น.ส.สุทธวรรณ เป็นผู้เสนอญัตติ 2.ญัตติเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 15-22 ตุลาคม รวม 8 วัน โดยนายเอกภพเป็นผู้เสนอญัตติ

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า การญัตติเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องในกรณีกำหนดเส้นทางขบวนเสด็จ เพื่อต้องการทราบสาเหตุที่อุบัติขึ้นว่าใครทำ ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน และรัฐเองเป็นผู้ควบคุมและมีความตั้งใจว่าต้องการให้เกิดขึ้นหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราต้องค้นหาว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่รับผิดชอบหรือไม่ ทั้งนี้ จากคำแถลงของนากยฯ 25 กรกฎาคม โดยมีหลักแรกที่สำคัญคือปกป้องสถาบันเกี่ยวกับการถวายความปลอดภัยและอารักขาขบวนเสด็จ และตำรวจนครบาลต้องทำงานสอดรับกับภารกิจนี้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ ต้องมีการค้นหา ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ทั้งพยานเอกสาร บุคคล และวัตถุพยาน และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นความบกพร่องอย่างไร

“เอกสารที่สำคัญคือหมายกำหนดการ จากนั้นเป็นขบวนการของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ มีการประชุมกำหนดแผนงานอย่างไร ซึ่งผมยอมรับว่ารู้เรื่องนี้ดีพอสมควร และด้วยความสามารถของพรรคก้าวไกลจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องนี้ใครจะต้องรับผิดชอบ เพราะในเนื้อหาของการปฏิบัติภารกิจ คนที่เป็นตำรวจนครบาลและมีภารกิจในการถวายอารักขา รู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องของใคร จะตนจะบอกว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือรัฐบาลและจะต้องแยกออก อะไรที่กระทำความผิดมิบังควร และการกระทำผิดอาญาให้ชัดเจน ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนรับร่างญัตตินี้ไปศึกษาร่วมกัน เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศของพระองค์ท่านอย่างสูงสุด อย่างเท่ากัน” พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว

ด้าน นายเอกภพกล่าวว่า นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติตั้ง กมธ.พิจารณาข้อเท็จจริงตรวจสอบการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. ที่นำมาสู่การใช้กำลังและคุกคามสิทธิเสรีภาพผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักการสากล และตรวจสอบต้นเหตุ เหตุผล และที่มาของการประกาศว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การไล่ละเมิดสิทธิ และการจับกุมผู้ที่เห็นต่างกับรัฐบาลถูกต้องหรือไม่ รวมถึงการตรจสอบการใช้งบประมาณในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงฯ ว่าใช้ไปอย่างไร กับเหตุผลใดบ้าง เช่น เบี้ยเลี้ยงกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ ไปจนถึงการชดเชยความเสียหายจากการสั่งปิดการขนส่งสาธารณะ พรรคก้าวไกลมองว่าประเทศไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯหลายครั้งก็จริง แต่สภาไม่เคยได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ จึงขอเชิญชวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชนร่วมหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิของประชาชนอย่างร้ายแรงในอนาคตต่อไป

ขณะที่นายณัฐชากล่าวว่า อยากเรียกร้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนออกมาตามหาความจริง นำข้อมูลขึ้นมาเปิดเผยสู่สาธารณะ ทุกฝ่ายจะต้องพูดข้อมูลเดียวกัน เพื่อลดความขัดแย้งจากต้นเหตุ เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายฝ่ายพุ่งเป้าโจมตีพี่น้องประชาชนที่ออกมาเรียกร้อง เราควรให้ความจริงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร อย่างไรก็ตาม วันนี้พรรคก้าวไกลจะยื่นญัตติด่วนทั้ง 2 ญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาการประชุมสมัยสามัญที่จะเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยญัตติดังกล่าวจะนำมาพิจารณาได้ต้องขึ้นอยู่กับเสียงโหวตในสภาเกินกึ่งหนึ่ง