คณะราษฎรยกระดับชุมนุม นัดหมายแยกราชประสงค์พรุ่งนี้ หลังขีดเส้นตายนายกฯไม่ลาออก

กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรประกาศยกระดับการชุมนุม นัดหมายผู้ชุมนุมทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์เย็นพรุ่งนี้ หลังผ่านเวลา 22 .00น. ที่ขีดเส้นตายไปแล้ว แต่นายกรัฐมนตรียังไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม

หลังการปักหลักชุมนุมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นวันที่ 2 และเป็นวันสุดท้ายของการขีดเส้นตายให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงปล่อยตัวแกนนำและผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำต่างๆ

จนเมื่อเวลา 22.00น. ที่ผ่านมา แกนนำกลุ่มราษฎร นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ประกาศว่าจะยกระดับการชุมนุมโดยนัดหมายให้ผู้ชุมนุมไปรวมตัวทำกิจกรรมกดดันรัฐบาลที่แยกราชประสงค์ในช่วงเย็นวันนี้ โดยยืนยันว่าจะไม่ปักหลักพักค้างคืน จะทำกิจกรรมเคลื่อนไหววันต่อวันเหมือนที่ผ่านมา ส่วนจะทำกิจกรรมใดบ้างยังบอกไม่ได้ เพราะไม่มีกำหนดการตายตัว และเป็นสิทธิของผู้ชุมนุมที่จะเลือกกิจกรรมไปทำในวันดังกล่าว ทั้งนี้มองว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ เป้าหมายหลักเวลานี้ต้องทำข้อแรกให้สำเร็จก่อน คือการกดดันให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง โดยเชื่อว่าเมื่อพลเอกประยุทธ์ ลาออกแล้ว ข้อเรียกร้องอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามมา

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะมีการประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันจันทร์นี้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎรที่ต้องทำหน้าที่ในสภา ซึ่งมองว่าที่ผ่านมากลไกดังกล่าว มักไม่ค่อยมีความคืบหน้า ถึงไม่อาจคาดหวังได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งเดียวที่คาดหวังได้ในเวลานี้คือการรวมพลังกลุ่มมวลชน ออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ให้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของคนส่วนใหญ่ ส่วนมาตรการรับมือของทางรัฐบาลต่อการชุมนุม จะมีการนำบทเรียนที่ผ่านมา มากำหนดเป็นแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นอีก

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมในวันที่ 2 ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นมา ได้กลับไปปิดการจราจรถนนงามวงศ์วานในฝั่งขาออกอีกครั้ง หลังมีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุม และขอให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับไปพักผ่อน พี่รอการเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 25 ต.ค. (พรุ่งนี้) ส่วนการรวมตัวปราศรัยจุดย่อยหลายแห่ง เช่นที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ และที่แยกบางนา ภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น