เป้ารายได้เที่ยวไทย 1.5 ล้านล้าน | อีคอนไทยชี้จีดีพีติดลบ 7.5% | ผ่านงบปรับถนน 4.8 หมื่นล้าน

แฟ้มข่าว

เป้ารายได้เที่ยวไทย 1.5 ล้านล้าน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2564 ททท.ได้จัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจสร้างรายได้ท่องเที่ยวรวม 700,000-1,500,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 400,000-500,000 ล้านบาท ตลาดต่างประเทศ 300,000-1,000,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายเป็นประเทศมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงสุด 1 ใน 5 อันดับแรกของโลก โดยคาดว่าในปี 2564 ภาพรวมตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นจากปีนี้ 2563 แต่ไม่ฟื้นกลับสู่ภาวะปกติเหมือนปี 2562 ได้

เล็งปล่อยกู้ 4 แสนล้านก๊อก 2

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการใช้เงินกู้ 4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนโครงการขอใช้เงินกู้ระยะที่ 2 โดยจะมีการหารือร่วมกันในคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้อีกครั้ง เพื่อจัดทำแผนให้เรียบร้อย ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีโครงการบางส่วนผ่านการอนุมัติออกไปแล้ว ในด้านการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ สำหรับเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ยืนยันว่าจะไม่ใช้จนหมดภายในปีนี้แน่นอน เนื่องจากจะทยอยปล่อยเม็ดเงินออกมาเป็นระยะๆ เพื่อประเมินตามสถานการณ์ในขณะนั้น และเตรียมพร้อมงบประมาณไว้ใช้ในภาวะวิกฤต

อีคอนไทยชี้จีดีพีติดลบ 7.5%

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ในส่วนของ 3 มาตรการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น มองว่าเป็นมาตรการโค้งสุดท้าย ที่ต้องการออกมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย อาทิ โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมาคืน เชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยดันให้ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) ติดลบ 7.5% จากเดิมที่คาดจะติดลบ 8% และคาดว่าจะเห็นผลของมาตรการได้อย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 ต่อไป

จี้ลดภาษีชิ้นส่วนรถอีวี

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เป็นนโยบายหนึ่งที่รัฐบาลและกระทรวงสนับสนุนให้เกิดขึ้น รองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเป้าหมายหลักรวมถึงเป็นการลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ด้วย ปัจจุบันแม้มีนักลงทุนมายื่นขอส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่อุปสรรคสำคัญคือแบตเตอรี่แพง ทำให้ราคาจำหน่ายแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันค่อนข้างมาก ดังนั้น แนวทางที่จะผลักดันให้เกิดขึ้น คือการลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วน เพื่อให้ราคารถอีวีถูกลง

พณ.ลุยดีลเอฟทีเอ 12 กรอบ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการทำงานด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ปี 2564 ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่ากรมมีแผนใช้การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อรักษาตลาดเดิม และขยายตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าและบริการของไทยรวม 12 กรอบเจรจา มีทั้งการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอ การเปิดเจรจาเอฟทีเอใหม่ การเร่งรัดเอฟทีเอคงค้าง และอัพเกรดเอฟทีเอที่มีอยู่เดิม

เกษตรแปรรูปรับอานิสงส์

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่มสินค้าแปรรูปตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม 2563 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 83,009.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,139.16 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปประเภทอาหารเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการ คาดว่าในสิ้นปีนี้มูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปจะเพิ่มขึ้นถึง 1 แสนล้านบาท

ผ่านงบปรับถนน 4.8 หมื่นล้าน

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2564 ทช.ได้รับงบประมาณ 48,789.8421 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามภารกิจและนโยบายรัฐ อาทิ ถนนลูกรังเป็นถนนลาดยางหรือคอนกรีต ถนนสนับสนุนการท่องเที่ยว ถนนเพื่อสนับสนุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยมีการก่อสร้างจากถนนลูกรังเป็นถนนลาดยางหรือคอนกรีต 365 โครงการ ระยะทาง 834 กิโลเมตร สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กทั่วประเทศ 222 โครงการ ความยาว 18,517 เมตร รวมกว่า 587 โครงการ โดย ทช.เร่งจัดซื้อจัดจ้างทั้งโครงการงบฯ ปีเดียวและโครงการงบฯ ผูกพันข้ามปี และลงนามสัญญาแต่ละโครงการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 จากนั้นแต่ละโครงการจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนมีนาคม 2564 ต่อไป

คาดดัชนีหุ้นแตะ 1,450 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป้าหมายดัชนีปี 2564 ที่สายงานวิจัยประเมินไว้ที่ 1,450 จุด โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม 5 ปัจจัย ได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก ปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในสหรัฐ ปัจจัยการเมืองไทย การปรับพอร์ตเพื่อเตรียมซื้อหุ้นไอพีโอ SCGP ของสถาบัน และการปรับมาตรการกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุด-ต่ำสุด (Ceiling & Floor) ได้ไม่เกิน 15% จากเดิม 30% รวมถึงกลับมาใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์และเกณฑ์การขายหุ้นโดยไม่มีในมือ (ชอร์ตเซล) ตามปกติ ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยยังคงคาดการณ์ปี 2563 ที่ 6.13 แสนล้านบาท หรือ 56.65 บาทต่อหุ้น

และปี 2564 คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 7.85 แสนล้านบาท หรือ 72.51 บาทต่อหุ้น