“ชวน” ชี้ช่องเปิดสมัยวิสามัญ ระบุเวลา 10วันกว่าจะเปิดประชุมสภา มีความหมายมาก 

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้เชิญหัวหน้าพรรการเมือง วิปรัฐบาล และฝ่ายค้านร่วมหาเรือเพื่อคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองว่า ถือเป็นการหารือภายในกับตัวแทนพรรคการเมืองเท่านั้น ซึ่งทางสภาฯไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลได้ หากได้ข้อสรุปอย่างไรว่า เราจะช่วยคลี่คลายปัญหาบ้านเมืองได้อย่างไร ตนจะเป็นผู้ทำเรื่องเสนอแนะไปยังฝ่ายบริหาร ซึ่งต้องเข้าใจบทบาท เพราะเรื่องฝ่ายบริหารเป็นผู้ดูแล สภาฯเข้าไปเกี่ยวข้องได้ระดับหนึ่ง จะไปสั่งไม่ได้ ที่ผ่านมาจะมีการเสนอแนะภายใน เช่น ตนได้ให้ความเห็นไปยังฝ่ายบริหารบางคนถึงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ แม้การเปิดสมัยวิสามัญจะไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไป แต่เป็นช่องทางเผื่อไว้ให้ทุกฝ่าย หาทางออกร่วมกัน โดยทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านมีสิทธิมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอีก 10 วัน กว่าจะถึงวันเปิดประชุมสมัยสามัญ แม้จะไม่นานหนัก แต่ทุกช่วงจังหวะเวลาถือว่า มีความหมายในการแก้ปัญหาของส่วนร่วม

เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมวิจารณ์ว่า สาเหตุที่ต้องออกมาชุมนุม เพราะไม่ศรัทธาและไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภาสมัยนี้ นายชวน กล่าวว่า “จริงๆในระบอบประชาธิปไตย ความเห็นคน 68 ล้านคน ย่อมมีความเห็นส่วนตัวได้ทั้งสิ้น เราต้องฟังไว้เท่านั้นเอง แต่จะถือว่า ความเห็นฝ่ายใดถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง เราไม่มีสิทธิไปวินิจฉัย เพียงแต่ให้ความร่วมมือกับบ้านเมืองเพื่อให้ ประชาชนเชื่อมั่นว่า ในระบบนี้ยังมีทางออก” เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง นายชวน กล่าวว่า “คงไม่ไปวิจารณ์ ผมเชื่อว่า ความเห็นของแต่ละฝ่าย มีสิทธิที่จะมีความเห็นแตกต่างกันไป ซึ่งความเห็นต่างกันเป็นธรรมดา เป็นปกติ”

เมื่อถามถึง ข้อเรียกร้องของพรรคการเมือง อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ให้เร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลดกระแสต่อต้านนั้น นายชวน กล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมฉบับแก้ไขก่อนรับหลักการ ได้ทำเรื่องขอขยายเวลาอีก 15 วัน การจะนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมได้เมื่อไหร่นั้น ต้องพูดคุยกับกมธ. เพราะตราบใดที่กมธ.ยังไม่เสนอเข้ามา ตนก็จะยังไม่สามารถบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระได้ สมมติว่า จะเปิดประชุมในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้แล้ว หากกมธ.ยังไม่เสนอเข้ามา ก็ยังไม่บรรจุระเบียบวาระได้ ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับการเปิดหรือไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ