ตร.แจงเหตุต้องสลายการชุมนุม ยันไม่มีกระสุนยางและแก๊สน้ำตา เสียใจมีผู้บาดเจ็บ

เมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 16 ต.ค.63 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงถึงการบังคับใช้กฏหมาย

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า การบังคับใช้กฎหมายเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้บังคับการใช้กฎหมายตามขั้นตอนต่างๆ เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และผู้ชุมนุมมีการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามหลักสากล

โดยการมีการประกาศด้วยวาจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการมีระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงไม่ปฏิบัติตามของคำสั่ง เจ้าพนักงานจึงมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้กฎหมายโดยมีขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก จะเห็นได้จากเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชน

ส่วนเรื่องของประเด็นที่มีการใช้น้ำที่ผสมสารเคมีประเภทสี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแยกแยะระหว่างตัวกลุ่มผู้ชุมนุมในการดำเนินคดีในอนาคต เป็นสารที่ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นหลักสากลที่ต่างประเทศก็ใช้เป็นสารเคมีที่ผสมน้ำที่สามารถใช้น้ำล้างได้

ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในครั้งนี้ด้วย สำหรับยอดผู้ที่ถูกจับกุมวันนี้ จำนวน 7 คน ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้เราสามารถควบคุมพื้นที่ได้หมดแล้ว แนวทางจากนี้ไป หลังจากที่มีการชุมนุมอีกเราก็จะมีมาตราการคู่ขนานกันไป หลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้เราไม่มีการใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ส่วนสารเคมีที่ใช้ผสมน้ำอาจจะมีการระคายผิวหนังบ้าง ไม่อันตราย ใช้มาตราฐานสากล

ขณะเดียวกันวันนี้ นายเคลมอนต์ วูเล่ ผู้แทนพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและการรวมกลุ่มอย่างสันติทวีตข้อความถึงสถานการณ์ชุมนุมในประเทศไทยว่า ผมรู้สึกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสารการประท้วงในประเทศไทย
การประกาศภาวะฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในกรุงเทพมหานครและการจับกุมกำลังกำจัดเสรีภาพในการชุมนุม รัฐบาลต้องอนุญาตให้ผู้ประท้วงใช้สิทธิและหาทางเจรจา ไม่ใช่ปราบปรามผู้ประท้วง