‘พิธา’ เผย ผบช.น. จับแกนนำ-ผู้ชุมนุมกว่า 100 คน ย้ำปฏิบัติตามกม. ลั่นเตือนก่อนสลายการชุมนุมแล้ว จะขอออกจากพื้นที่ไม่ได้

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ภายหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาที่แยกปทุมวัน และต่อสายโทรศัพท์ถึงพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อขอเข้าไปเจรจาให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมคณะราษฎร 63 ที่ถูกจับกุม โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ได้ส่งตัวแทนมารับนายพิธาเข้าไปพูดคุยในป้อมประจำการตำรวจที่อยู่แยกปทุมวัน

จากนั้นเวลา 21.30 น. นายพิธา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับ ผบช.น. ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะนี้ได้จับกุมแกนนำ และผู้ชุมนุมไปแล้วกว่า 100 คน ส่วนมวลชนที่ยังติดค้างอยู่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจับกุมผู้ชุมนุมที่ยังในบริเวณแยกปทุมวัน เมื่อดำเนินการแล้วจะมาขอออกจากพื้นที่ไม่ได้ เพราะได้มีการประกาศให้ออกจากพื้นที่ก่อนหน้าที่จะมีการสลายแล้ว

นายพิธา กล่าวต่อว่า ซึ่งตนได้บอกว่าถ้าจะมีการจับกุมต้องกระทำอย่างละมุนละม่อม โดยจะต้องมั่นใจว่าจะต้องมีความปลอดภัย คนที่เจ็บป่วยต้องได้รับการปฐมพยาบาล ตนมาเจรจาเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการสลายการชุมนุม จะต้องมีการนำรถพยาบาลเข้ามา และนำผู้ชุมนุมกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยตนจะต้องทำหน้าที่ตามสิทธิ โดยจะใช้สถานะส.ส.ไปรับรองแกนนำที่ถูกจับกุมที่ตชด. โดยผู้ที่ถูกจับจะต้องมีสิทธิที่จะเข้าถึงทนาย และติดต่อญาติ

เมื่อถามว่าจากการติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด มีรายงานผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีจำนวนมาก เพราะผู้ที่เข้ามาชุมนุมไม่คิดว่าจะมีความรุนแรง ไม่มีอาวุธ มีมาแค่ร่ม ก็จะต้องดูแลกันต่อไป

“ในฐานะส.ส.ที่อยู่ในสภาที่ขณะนี้กำลังปิดสมัยประชุม ก็ต้องเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้วว่าเราต้องลงชื่อร่วมกันเพื่อเปิดสมัยประชุมให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการถ่วงดุลการใช้อำนาจ เหตุและผลในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรการในการควบคุมผู้ชุมนุมต่อไป ให้มีความโปร่งใส ไม่ใช่ว่าพอจะมาก็มากันแบบนี้ ถ้ายังเป็นช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะเราจะสามารถใช้กรรมาธิการฯ เพื่อเรียกซักถามว่ามีแนวคิด ขั้นตอนอย่างไร

ส่วนที่นายกฯ มีท่าทีให้การเปิดสมัยประชุมฯสภาเป็นไปตามกรอบเวลา นายพิธา กล่าวว่า สภาไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ