‘วิษณุ’ ยันม็อบราชประสงค์ผิดทุกคน มาเป็นแสนก็ผิด!

‘วิษณุ’ ยันม็อบราชประสงค์ผิดทุกคน มาเป็นแสนก็ผิด!

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ นัดพิเศษ ว่า ปัจจุบันนี้การประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ใช้ซ้อนกันอยู่ 2 ฉบับ คือทั่วประเทศ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินธรรมดา ในสถานการณ์โควิด-19 แต่ในกรุงเทพมหานครใช้ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินธรรมดา และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง คือมีอยู่ 2 กรณีคือ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม มาตรา 5 ที่ยังใช้อยู่ในกรณีของโควิด-19 ทั่วราชอาณาจักร และกรณีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในท้องที่กรุงเทพมหานคร และยังสามารถต่ออายุได้ทุก 30 วันเช่นเดิม ส่วนการประกาศเคอร์ฟิว หากจะย้อนไปใช้วันไหนเงื่อนไขของโควิด-19 นั้น ถ้าจะย้อนไปก็ไม่แปลก แต่ตอนนี้ไม่มีใครคิดหรือไม่มีใครพูดถึงเรื่องดังกล่าว

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมแบบรายวันนั้น ทางฝ่ายความมั่นคงจะต้องประเมินรายวันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหารือแก้ไขวิกฤตของประเทศ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง เนื่องจากระยะเวลาเหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์ ดังนั้น กว่าจะออกพระราชกฤษฎีกาเสนอขึ้นไปแล้วกว่าจะลงมา ก็พอดีเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 1 พฤศจิกายน แล้วเปิดยาวไปถึง 120 วัน คือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อกล่าวหาที่ใช้ดำเนินการกับผู้ชุมนุมร้ายแรงเกินไป รองนายกฯ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมทั้งหมดนั้นถือว่าผิดกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะเมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย่อมไม่ใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งหากในยามปกติทั่วไปก็จะมีข้อจำกัดตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ในเมื่อวันนี้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงถือเป็นข้อจำกัด เพราะฉะนั้น จะมาอ้างเสรีภาพเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คงจะไม่ได้ เพราะมีเงื่อนไขอยู่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีข้อกำหนดที่เขียนไว้ว่า ไม่ให้มีการชุมนุมและมั่วสุมเกิน 5 คน และทางตำรวจจะอำนวยความสะดวกด้วยการออกคำชี้แจง ว่าการชุมนุมเพื่อทำกิจกรรม ทางสังคม ทางธุรกิจ ทางวัฒนธรรม เช่น งานศพ งานแต่งงาน งานสังสรรค์รื่นเริง แม้จะมีจำนวนเป็น 1,000 หรือ 10,000 คนก็สามารถชุมนุมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ที่จะผิดกฎหมาย ก็เฉพาะกรณีที่มีการออกอยู่ในข้อกำหนด

เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมมีจำนวนมากเป็นหลักหมื่นถึงหลักแสนคน จะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไรนายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อถามว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง สามารถยกระดับได้สูงสุดถึงระดับใดในการดูแลการชุมนุมให้สงบเรียบร้อย นายวิษณุ กล่าวว่า ตามมาตรา 11 ของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุว่าเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปจับ ยึด ทำลาย รื้อเวที ห้ามเข้าสถานที่ และไปไกลถึงขนาดประกาศเคอร์ฟิวหรือเนรเทศก็ได้ แต่แน่นอนว่าการเนรเทศคนไทยนั้นทำไม่ได้ เพราะจะขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายเขียนไว้เช่นกรณีใช้กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีชาวต่างประเทศ จึงสามารถเนรเทศได้

ผู้สื่อข่าวถามถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง มีกำหนดกี่วัน นายวิษณุ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้ 30 วัน คือจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน แต่ได้ให้เงื่อนไขไว้ว่า ในกรณีที่หากเห็นว่าสถานการณ์บรรเทาเบาบางลงให้นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งยุติยกเลิกได้ทันทีเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องเรียกประชุมครม.

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม. พิเศษวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ที่ประชุมให้ทราบถึงกรณีการตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เพื่อรับรองประกาศดังกล่าวเป็นมติครม. ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่รับทราบโดยที่ไม่ได้มีการติดใจสอบถามหรือตั้งข้อสังเกต มีเพียงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการประกาศสถานการณ์ร้ายแรงแล้วในกรุงเทพมหานคร จะมีผลให้การใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะหมดไป แต่ไม่ได้มีการลงในรายละเอียดถึงเรื่องการประกาศเพิ่มเติมในข้อกำหนด เช่น เคอร์ฟิว

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ครม. ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่อง สถานการณ์การชุมนุมคู่ขนานของกลุ่มคณะราษฎรในต่างจังหวัด ที่จะจัดในรูปแบบดาวกระจายทั่วประเทศ เพราะมีการบังคับใช้กฎหมายในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ