ฝรั่งเศสหวน “เคอร์ฟิว” สกัดโควิด คุม 22 ล้านคน ห้ามออกนอกบ้าน 3 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า

สำนักข่าว บีบีซี รายงานวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ถึงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคโควิด-19 แพร่ระบาดใน ประเทศฝรั่งเศส ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข พร้อมใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงปารีส และอีก 8 เมืองความเสี่ยงสูง

ได้แก่ เมืองมาร์เซย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางตอนใต้ในจังหวัดบุช-ดูว์-โรน เมืองลียงและเมืองเกรโนเบิลในแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ นครลีล แคว้นนอร์-ปาดกาแล เมืองแซ็งเตเตียน จังหวัดลัวร์ นครรูอ็อง แคว้นโอต-นอร์ม็องดี เมืองตูลูส ในจังหวัดโอต-การอน และเมืองมงต์เปลิเยร์ แคว้นอ็อกซีตานี

ห้ามประชาชนรวมกว่า 22 ล้านคนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 06.00 น. เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ต.ค. นาน 4-6 สัปดาห์ เพื่อเร่งยับยั้งการระบาดของไวรัสมรณะ ภายหลังตัวเลขผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ค่าเฉลี่ยเกือบ 20,000 คนต่อวัน และในช่วง 1 สัปดาห์มีผู้ติดเชื้อรวมกันราว 125,554 คน

ทั้งยังทุบสถิติมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ของประเทศถึง 26,896 คนเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ส่วนผู้ป่วยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เมื่อ 14 ต.ค. อยู่ที่ 22,591 คน ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 779,063 คน เสียชีวิตแล้ว 33,037 ราย และรักษาหายเพียง 103,413 คน

นายมาครงระบุว่าบุคคลที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงเคอร์ฟิวสามารถยื่นขออนุญาตได้ แต่หากเจ้าหน้าที่พบผู้ใดละเมิดกฎจะมีโทษปรับ 135 ยูโร หรือเกือบ 5,000 บาท

สถานศึกษายังเปิดทำการเรียนการสอน และผู้คนสามารถเดินทางในช่วงระหว่างวันได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังและเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ยังห้ามการรวมกลุ่มเกิน 6 คนในพื้นที่ปิดบ้านส่วนบุคคล ยกเว้นบ้านที่มีขนาดใหญ่