อนุทิน ส่งหมอประจำตัว 3 คน ดูแลคนไทยทุกครอบครัว ยันพร้อมสู้โควิด-19

อนุทิน ส่งหมอประจำตัว 3 คน ดูแลคนไทยทุกครอบครัว ยันพร้อมสู้โควิด-19

วันนี้ (15 ตุลาคม 2563) ที่ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นำคณะผู้บริหาร สธ. เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตามนโยบายคนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน พร้อมมอบรางวัล อสม.ดีเด่น จำนวน 12 รางวัล และมอบชุดเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์สาหรับศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) ให้แก่ตัวแทน อสม.7 อำเภอ โดยมีประธาน อสม.จ.อำนาจเจริญ ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมประชุม 600 คน

นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลและ สธ. ต้องการให้คนไทยมีหมอประจำตัว 3 คน ดูแลสุขภาพใกล้บ้าน ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการรักษาพยาบาล สร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งเป็นเครือข่ายบริการสุขภาพที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ตั้งแต่ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รพ.ชุมชน โดยมี “คลินิกหมอครอบครัว” ที่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและทีมสหวิชาชีพดูแลประชาชนแบบองค์รวม ประชาชนรู้จักและเข้าถึงหมอประจำตัวทั้ง 3 คน เมื่อเจ็บป่วยหรือจำเป็นต้องได้รับบริการสุขภาพจะได้รับบริการจากหมอทั้ง 3 คน ตามลำดับความรุนแรงของโรค ซึ่งทำงานร่วมกัน เชื่อมต่อข้อมูลของผู้ป่วยให้การรักษามีความต่อเนื่อง และส่งต่อผู้ป่วยอย่างไร้รอยต่อ เป็นการต่อยอดให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ช่วยลดความแออัดและภาระงานของบุคลากรใน รพ.

นายอนุทินกล่าวว่า หมอประจำตัว 3 คน ได้แก่ 1.หมอประจำบ้าน คือ อสม. 1 คน รับผิดชอบ 8-15 หลังคาเรือน ขณะนี้มี อสม.ได้รับการอบรมเป็น อสม.หมอประจำบ้านแล้ว 84,793 คน มีหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิครอบคลุมประชากรร้อยละ 36.3 2.หมอสาธารณสุข คือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข/พยาบาล 1 คน รับผิดชอบประชาชน 1,250 คน และ 3.หมอครอบครัว คือ แพทย์ที่มีองค์ความรู้หรือจบด้านเวชศาสตร์ครอบครัว 1 คน รับผิดชอบประชาชน 10,000 คน ทำงานร่วมกันในการดูแลให้ความรู้ ส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่ โดย จ.อำนาจเจริญ มี อสม.ทั้งหมด 7,249 คน คลินิกหมอครอบครัวที่ขึ้นทะเบียน 20 หน่วย แพทย์ประจำคลินิกหมอครอบครัว 20 คน และบุคลากรสาธารณสุขปฏิบัติงาน รพ.สต. จำนวน 402 คน

“ยินดีกับข้าราชการทุกคนที่ได้บรรจุ ถือเป็นรางวัลที่มาจากความมุ่งมั่น ขณะที่ อสม.นั้น คือ ส่วนสำคัญในการช่วยประเทศไทยควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับต่างชาติ ต้องขอขอบคุณและชื่นชมการวางรากฐาน อสม. จาก นพ.อมร นนทสุต อดีตปลัด สธ. เพราะเป็นไปไม่ได้ที่หมอและพยาบาลเพียง 60,000 คน จะจัดการกับโควิด-19 ได้ สำหรับ จ.อำนาจเจริญ อสม.ทั้ง 7,000 คน ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม และต้องขอบคุณประชาชนที่สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่าง นี่เป็นวัคซีนที่ดีที่สุด เพราะกว่าจะมีวัคซีนจริง อย้างเร็วที่สุด คือ ปีหน้า ซึ่งต้องไปติดตามเรื่องประสิทธิภาพด้วย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน นายอนุทินกล่าวว่า เรามีความพร้อมในการรับมือกับโรค ทั้งความรู้ ประสบการณ์ เวชภัณฑ์ จากที่มียาสำคัญ ไม่ถึง 10,000 เม็ด ขณะนี้เรามี 700,000 เม็ด มีเครื่องช่วยหายใจ เมื่อเทียบต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก เรามีความพร้อมที่จะผ่อนคลาย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น

“ขออัพเดตความคืบหน้าด้านการก่อสร้างอาคารที่ รพ.อำนาจเจริญ จะแล้วเสร็จในปี 2564 และภาครัฐมีแผนสนับสนุนให้พื้นที่นี้ เป็นศูนย์กลางด้านสมุนไพร ขณะเดียวกัน สธ.เห็นความสำคัญในการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชน งบประมาณปี 2564-2565 ได้จัดสรร เพื่อสร้างศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคไต ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และศูนย์ดูแลเด็ก ในระยะใกล้จะมีความคืบหน้าเรื่องกัญชา เพราะในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ จะเกิดความร่วมมือในการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ระหว่าง รพ.สต.กับวิสาหกิจชุมชน” นายอนุทินกล่าว

จากนั้นนายอนุทิน ได้เดินทางไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อำนาจเจริญ เพื่อกดปุ่มเปิดป้ายแพร ป้ายอาคารคลินิกทันตกรรมและแพทย์แผนไทย พร้อมเยี่ยมชมสินค้าสมุนไพร “พณาพรรณ” จากศูนย์แพทย์แผนไทยพนา