ตำรวจรวมหลักฐานเอาผิดม็อบ เปิดสูตรคำนวณม็อบแค่ 8 พันคน

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม กลุ่มผู้ชุมนุมในนามคณะราษฎร 2563 ปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากนั้น ตร.เข้ากดดันให้สลายตัว และจับกุมแกนนำจำนวนหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าแยกนางเลิ้งถึงแยกมิสกวัน ช่วงบริเวณถนนพิษณุโลกไม่สามารถใช้การได้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมยึดพื้นที่อยู่ตรงบริเวณดังกล่าว โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้ถนนหลานหลวง หรือไปใช้ถนนราชวิถีที่อยู่ใกล้เคียง ส่วนถนนนครสวรรค์ ช่วงแยกเทวกรรมถึงแยกนางเลิ้ง มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน โดยการจราจรยังไม่สามารถใช้การได้อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นจึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการชุมนุม และใช้เส้นทางใกล้เคียงแทน

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า พระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนุมใกล้เคียงบริเวณทำเนียบรัฐบาล แต่ที่ผ่านมาตำรวจประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบแล้วว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังพยายามฝ่าฝืน ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานไว้ดำเนินคดี กรณีนี้มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนข้อมูลของตำรวจในเรื่องของการประเมินตัวเลขผู้ชุมนุม ตำรวจอ้างอิงตามสูตรคิดคำนวณทางวิทยาศาสตร์ พบว่าถนนพิษณุโลกกว้าง 6,000 ตารางเมตร หากใช้สูตรการคำนวณ พบว่าในเวลาล่าสุดประมาณ 19.00 น. มีผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คน กระจายตัวไม่เต็มพื้นที่

“ตำรวจจะมีการปรับเปลี่ยนแผน หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการชุมนุมยืดเยื้อ ตำรวจมีแผนปฏิบัติการไว้อยู่แล้ว โดยมีอำนาจตามกฎหมายรองรับ เช่น กฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ หรือกฎหมายอาญาอื่นๆ” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

รองโฆษก ตร. กล่าวยืนยันอีกว่า ตำรวจจะพยายามให้กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่เพียงแค่แยกมิสกวัน โดยจะมีการประสานเพื่อขอให้อยู่เพียงแค่พื้นที่นี้เท่านั้น