ตร.แจ้ง10 ข้อหาผู้ชุมนุม ผิดพรก.ฉุกเฉิน-พรบ.โรคติดต่อฯ ด้วย “ไผ่” อ่วม โดน 12 ข้อหา

กรณีการจับกุมตัวผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม โดยควบคุมตัวไว้ที่ ตชด.ภาค1 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ โดยเวลา 01.40 น. จนท.ได้ทำการตรวจร่างกาย จัดทำบันทึกจับกุมและทยอยแจ้งข้อกล่าวหา คณะราษฎรอีสาน ทั้ง 21 คน ที่ถูกจับกุมตัวไว้ในตชด.ภาค1 ขณะที่ ไผ่ จตุภัทร หรือไผ่ ดาวดิน ได้ฝากข้อความมาถึงประชาชนด้านนอกที่ติดตามสถานการณ์ยืนยันใช้สันติวิธี ความรุนแรงไม่ใช่ทางแก้ปัญหา ต่อมาเวลา 03.30 น. จนท.ตร.อ่านบันทึกจับกุมให้ผู้ต้องหาคณะราษฎรอีสาน ทั้ง 21 คนฟังในห้องควบคุมตัว โดยผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ประสงค์ลงชื่อในบันทึกจับกุม เนื่องจากมีข้อโต้แย้งในข้อเท็จจริงขณะจับกุมตัว ต่อมาเวลา 05.15 น. ตำรจแจ้งข้อกล่าวหา คณะราษฏรอีสาน 20 คนแล้วเสร็จ ยกเว้นเยาวชนอายุ 17 ปี ที่ทางพงส.ยังไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายได้ทัน ด้านผตห.ทั้ง 20 คน ได้ยื่นขอใช้ตำแหน่งส.ส.พรรคก้าวไกล 3 คน ประกันตัวระหว่างชั้นสอบสวน จนถึง 06.40 ยังไม่มีคำสั่งเรื่องการประกันตัว

ขณะที่ น.ส. เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ระบุว่า 06.30. น. เช้าแล้วแต่ ภารกิจเรายังไม่จบ ยังไม่สามารถช่วยให้นักศึกษา-ประชาชน ทั้ง 21 คนให้ได้รับอิสรภาพออกมาได้ ขณะที่ พนักงานสอบสวนสามารถอนุมัติการประกันตัวให้นักศึกษา-ประชาชน 19 คนได้เลย แต่ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ที่มีอัตราโทษสูงทางพนักงานสอบสวนต้องเสนอเรื่องประกันตัวให้ผู้กำกับชนะสงคราม พิจารณาก่อน ดังนั้นถ้าไผ่ไม่ได้รับการปล่อยตัว ทุกคนจะไม่ยอมทิ้งกัน จึงขอให้พนักงานสอบสวนเสนอพิจารณา 20 คนไปพร้อมกัน และมีเยาวชน 1 คนที่ต้องนำส่งศาลเยาวชน

น.ส.เบญจา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังรอเจ้าหน้าที่แจ้งผล เนื่องจากต้องรอให้ผู้กำกับเป็นคนอนุมัติประกันตัว จากการที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ใช้ตำแหน่งเข้าประกันตัวผู้ชุมนุม โดยไผ่ซึ่งมีโทษสูง อาจต้องถูกส่งตัวไปศาลอาญา ขณะที่อีก 19 คน อาจถูกส่งตัวไปศาลแขวง และเยาวชนหนึ่งคน ถูกส่งตัวไปศาลเยาวชนฯ ขณะที่ ส.ส.ก้าวไกล ขณะนี้เตรียมพร้อมในการทำหน้าที่ รวมถึงการใช้ตำแหน่งประกันตัว ขณะนี้กำลังเดินทางไปสังเกตการณ์ที่ ถนนราชดำเนิน

ล่าสุดมีรายงานว่า สรุปผู้ชุมนุม คณะราษฎรอีสาน ถูก 10 ข้อกล่าวหา โดยมีข้อหา พรกฉุกเฉิน – พรบโรคติดต่อ ด้วย ขณะที่ “ไผ่” ถูกแจ้งเป็นแกนนำ มีข้อหา 12 ข้อหา และยังมีเยาวชนอายุ 17 ปีอีกราย ที่ตร.ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ ต้องรอไปไต่สวนการจับกุมที่ศาลเยาวชนก่อน

สำหรับรายชื่อผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย

1.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา อายุ 29 ปี
2.นายวชิรวิชญ์ ลิมป์ธนวงศ์ อายุ 23 ปี
3.นายปริญญ์ รอดระหงส์ อายุ 23 ปี
4.นายปวริศ แย้มยิ่ง อายุ 24 ปี
5.นายฐิติสรรค์ ญาณวิกร อายุ 27 ปี
6.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ อายุ 32 ปี
7.นายวันชัย สุธงสา อายุ 23 ปี
8.นางสาววรางคณา แสนอุบล อายุ 21 ปี
9.นายนันทพงศ์ ปานมาศ อายุ 29 ปี
10.นายทวีชัย มีมุ่งธรรม อายุ 20 ปี
11.นายเมยาวัฒน์ บึงมุม อายุ 20 ปี
12. นายธนกฤต สุขสมวงศ์ อายุ 65 ปี
13. นางเพ็ญศรี เจริญเณรรักษา อายุ 57 ปี
14. นางสาวอภิชญา เพิ่มพงษ์พิพัฒน์ อายุ 18 ปี
15. นายมุสิก ผิวอ่อน อายุ 27 ปี
16. นายภักดี ศรีรัตอำไพ อายุ 55 ปี
17. นายนวพล ต้นงาม อายุ 23 ปี
18.นายกิตติภูมิ ทะสา อายุ 20 ปี
19.นายทรงพล สนธิรักษ์ อายุ 21 ปี
20.นายจิรวัฒน์ รูปใหญ่ อายุ 24 ปี
21.นายศลักษณ์ อายุ 17 ปี

สำหรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งแก่ผู้ต้องหาทั้ง 20 คน มี 10 ข้อหาด้วยกัน ได้แก่

1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โทษจำคุกไม่ 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

4. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385 ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

5. พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 114 ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร โทษปรับไม่เกิน 500 บาท

6. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19 ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

7. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12 ร่วมกันขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

8. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

9. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท

10. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งเจ้าพนักงาน โทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในส่วนนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” เพียงคนเดียว ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในฐานะแกนนำ

ข้อหาที่แตกต่างกันคือ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคท้าย ซึ่งระบุว่าเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อีกยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมแล้วทำให้่จตุภัทร์ถูกแจ้งทั้งหมด 12 ข้อหา