ชง”บิ๊กตู่”ตั้งบอร์ดบีโอไอ เซ็นสัปดาห์นี้ เร่งประชุมภายในต.ค.ดันลงทุน อุ้มจ้างงาน

บีโอไอเสนอ “บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ตั้งบอร์ดบีโอไอชุดใหม่ หลังได้รมว.คลัง ประชุมต.ค.นี้ หวังเร่งการลงทุนประเทศ “สุพัฒนพงษ์”ลั่นมาตรการกระตุ้นศก.ครบ เดินหน้าเปิดประเทศดึงดูดการลงทุน

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ คณะกรรมการบีโอไอ(บอร์ดบีโอไอ) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน จะแต่งตั้งบอร์ดบีโอไอชุดใหม่ และคาดว่าจะมีการประชุมบอร์ดบีโอไอภายในเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน โดยการตั้งบอร์ดบีโอไอใช้เวลาระยะหนึ่งเพราะที่ผ่านมารอการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ที่เป็นหนึ่งในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ นอกจากนี้ในคณะกรรมการจะมีการแต่งตั้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นกรรมการด้วย รวมทั้งจะตั้งนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยคนใหม่ เป็นกรรมการด้วย โดยการแต่งตั้งดังกล่าวเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงหลังจากปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)

โครงสร้างบอร์ดบีโอไอ หลักจะมีแค่ 3 คนที่เป็นกรรมการตามตำแหน่งคือ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นรองประธาน และเลขาธิการบีโอไอเป็นเลขานุการบอร์ด ที่เหลือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แต่งตั้ง“แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าว กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดบีโอไอเดือนตุลาคมนี้ สำนักงานบีโอไอ จะเสนอให้พิจารณาอนุมัติมาตรการการช่วยเหลือรักษาอัตราการจ้างงาน เนื่องจากหลายบริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยบีโอไอจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ช่วยเหลือ อาทิ การเพิ่มสิทธิประโยชน์บางด้านที่เชื่อมโยงกับค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน เสนอให้เพิ่มสาขาการส่งเสริมในกลุ่มอุตสาหกรรมชีวภาพ กลุ่มเซอร์คูล่าอีโคโนมี ที่ควรเพิ่มสาขาการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ไบโอแมส ทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมูลค่าสูง เสนอให้เพิ่มสาขากิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ สาขาการวิจัยทางคลินิก ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์

แหล่งข่าว กล่าวว่า นอกจากนี้จะเสนอให้ต่ออายุมาตรการไทยแลนด์ พลัส พลัส ที่เพิ่มสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% อีก 5 ปี ซึ่งมาตรการนี้จะหมดอายุในสิ้นปีนี้เพื่อดึงดูดบริษัทที่จะย้ายฐานการผลิตให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย สำหรับตัวเลขคำขอส่งเสริมการลงทุน 9 เดือน(มกราคม-กันยายน2563) คาดว่าจะมีการเสนอบอร์ดให้รับทราบ ซึ่งตลอดปี 2563 มั่นใจว่าคำขอจะถึง 2 แสนล้านบาทจากล่าสุด 6 เดือน(มกราคม-มิถุนายน2563)อยู่ที่ 1.58 แสนล้านบาท จำนวน 754 โครงการ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการ ทั้งเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการช้อปดีมีคืน รวมถึงมาตรการเราเที่ยวด้วยกันจะเป็นเครื่องมือสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสุดท้ายของปี 2563 เชื่อว่าภาพรวมจะดีขึ้น ประเทศค่อยเปิดๆ เดินหน้าส่งเสริมการลงทุน ตามหลักการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจออกแบบไว้