‘อ้าย เหว่ยเหว่ย’ หวั่นอิทธิพลจีนขยายใหญ่จนเกินต้านแล้ว

เมื่อวานนี้ (29 กันยายน 2563) บีบีซี ได้รายงานสัมภาษณ์ อ้าย เหว่ยเหว่ย ศิลปินอิสระผู้รังสรรค์งานวิจารณ์รัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ ได้แสดงความคิดเห็นเชิงกังวลต่อการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนต่อโลก กำลังมากขึ้นจนตอนนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว

อ้ายกล่าวว่า ชาติตะวันตกควรห่วงเรื่องจีนเมื่อทศวรรษก่อน ตอนนี้อิทธิพลจีนมีมากจนอาจสายเกินไป ชาติ เพราะชาติตะวันตกได้สร้างระบบที่ทำให้จีนเข้มแข็ง และหากเลือกตัดขาดจีน ตัวเองก็จะสาหัสด้วย นั่นทำให้จีนดูอหังการมาก

อ้ายยังกล่าวว่า จีนตอนนี้ได้ใช้อำนาจทางเศรษฐกิจมหาศาลเพื่อกำหนดอิทธิพลทางการเมืองของตน ซึ่งแน่นอนว่าจีนได้กลายเป็นชาติทรงอำนาจในช่วงไม่กี่ปีมานี้

อย่างไรก็ตาม หู ซี่จิ้น บรรณาธิการใหญ่ของโกลบอล ไทม์ส หนังสือพิมพ์หัวสีของรัฐบาลจีน ปฏิเสธความคิดที่ว่าจีนทำตัวระรานข่มเหงระดับโลก

“ฉันอยากถามคุณว่าเมื่อไหร่ที่จีนเคยกดดันให้ประเทศใดทำอะไรที่ขัดต่อความประสงค์ของพวกเขา? เป็นสหรัฐฯที่ยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทั่วโลกโดยเฉพาะการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อหลายประเทศ ประเทศใดที่คุณรู้ว่าจีนถูกคว่ำบาตร” หูกล่าวและว่า เราเคยคว่ำบาตรทั้งประเทศหรือไม่? เราแสดงความไม่พอใจเฉพาะในประเด็นเฉพาะและเป็นปฏิกิริยาตอบโต้เมื่อประเทศของเราถูกรุกรานอย่างเปิดเผยเท่านั้น

คำกล่าวของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์นี้ สะท้อนถึงท่าทีของจีนที่ตอนนี้ เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทหรือประเด็นขัดแย้งระหว่างประเทศกับหลายประเทศตั้งแต่ไต้หวัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินเดีย อังกฤษหรือสหรัฐฯ

มีรายงานว่า นายหูเองเขียนบทบรรณาธิการบรรยายออสเตรเลียว่าเป็น “หมากฝรั่งติดฝ่ารองเท้าบู๊ทของจีน”

นอกจากนี้ นายหู กล่าวไม่ยอมรับต่อคำกล่าวที่ว่าสงครามเย็นครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยระบุว่า ข้อพิพาทของจีนพื้นฐานคือมีปัญหากับสหรัฐฯ โดยตั้งข้อสังเกตว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาโจมตีจีนบ่อยมากซึ่งโยงกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และนายทรัมป์พยายามทำทุกทางเพื่อชนะในอีกสมัย