หวิดพังประตู พ่อแม่เดือดเคลียร์ปมครูโหด แฉเก็บเงินเกิน ลั่นต้องคืนค่าเทอม

จากกรณี ผู้ปกครองเดินทางเข้าพบผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ หลังจากทางโรงเรียนออกแถลงการณ์ เพื่อให้ผู้ปกครองมารับฟัง แนวทางการช่วยเหลือเยียวยา และชี้แจงแนวทางการบริหาร โดยจะเริ่มจากห้องเรียน KG1E ซึ่งเป็นห้องเรียนที่พี่เลี้ยงจุ๋ม ซึ่งปรากฏคลิปทำร้ายเด็กนักเรียนก่อนหน้านี้

ตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ย.2563 ผู้ปกครองนักเรียนกว่า 100 คน ได้ทยอยเดินทางมารอฟังแถลงการณ์ แต่ขณะที่ทางผู้ปกครองร่วมกลุ่มรอกันอยู่นั้นเจ้าหน้าที่เกิดความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากผู้ปกครองถูกแยกให้รอในห้องสมุด แต่จะมีการแถลงข่าวที่ห้องประชุมใหญ่ จนเกิดความไม่พอใจ ก่อนที่กลุ่มผู้ปกครองจะบุกไปเคาะเรียกที่ห้องประชุมเล็กที่กลุ่มครูของทางโรงเรียนเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของร่วมประชุม จนชุลมุนวุ่นวาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาอธิบาย

ทั้งนี้ 1 ในผู้ปกครอง ระบุว่า ส่วนตนเองต้องการให้โรงเรียนเปิดเผยแนวทางการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงเปิดเผยภาพจากหล้องวงจรปิด ในโรงเรียนทุกจุด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยลูกชายของตนเล่าว่า เคยถูกครูลงโทษสั่งขังในห้องน้ำ และทำร้ายร่างกาย จึงต้องการให้โรงเรียนเปิดเผยภาพวงจรปิด บริเวณหน้าห้องน้ำ แต่ทางกลับทางโรงเรียนกลับอ้างว่า ที่จุดดังกล่าว ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ซึ่งผู้ปกครองได้บุกไปชี้จุดให้ผู้สื่อข่าวดูว่ามีกล้องอยู่จริง

บรรยากาศในการประชุมเป็นไปอย่างตรึงเครียด โดยมี กระทรวงศึกษาธิการเป็นตัวกลาง นำโดย นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ , นาย กมล รอดคล้าย ทีปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ , นาย อรรถพล ตรึกตรอง เลขาคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน , พร้อมด้วยผู้บริหารโรงเรียน , และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ร่วมสังเกตการณ์

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยัน เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีมวยลมแน่นอน ทุกเรื่องที่ไม่โปร่งใส ทำผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดี เบื้องต้น มอบหมาย ให้ คุรุสภา ดำเนินการแจ้งทุกข์กล่าวโทษ ผู้บริหารโรงเรียน และครูที่เกี่ยวข้อง หากพบว่า ครูผู้สอน ครูพี่เลี้ยง ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และให้ สช. ไปดำเนินการตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครูทั้งหมด ทั้งโรงเรียน หากพบว่าครูผู้สอนไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

สำหรับทีมผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤษก์ ตอนนี้ ทางคณะกรรมการส่วนกลางขอเครือโรงเรียนสารสาสน์ ได้เข้ามาบริหารและดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ โดยผู้ปกครองต้องการความชัดเจน ที่เป็นรูปธรรมในแนวทางการป้องกันเหตุความรุนแรง และแนวทางการเยียวยาจากทางโรงเรียน และได้ถามหาผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากผู้ปกครองไม่ทราบว่าปัจจุบัน ใครคือ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยทางโรงเรียนยืนยันว่า จะรับผิดชอบ ปรับแก้ทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น วุฒิครู ห้องที่มีปัญหา เปลี่ยนผู้บริหาร และบุคคลกรที่สอนเด็ก หากพบว่า ไม่มีวุฒิภาวะ ระงับอารมณ์ จะไม่ให้มาสอน

ด้าน นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ระบุว่า วันนี้ต้องได้ข้อยุติในปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการประสานตรวจสอบมาตลอด ซึ่งพบความผิดพลาด และการทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการจ้างผู้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ อย่างไรก็ตาม พบว่า โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ แจ้งเก็บค่าธรรมเนียม ห้องEP โดยเก็บปีละ 80,000 บาท

ซึ่งกฎหมายกำหนดว่า ต้องมีเด็กไม่เกิน 25 คนในชั้นอนุบาล มัธยม ไม่เกิน 30 คน หลักเกณฑ์สช. ห้องเรียนละไม่เกิน 40,000บาท ประกอบด้วย ค่าอาหาร , ค่าประกัน , ค่าว่ายน้ำ , ค่าตรวจสารเสพติด , ค่าทักษะเรียนเสริม และ ค่าอื่นๆ หากผู้ปกครอง พบว่า ทางโรงเรียนเก็บเกินที่ สช. กำหนด ทางโรงเรียนยินยอมจะจ่ายเงินคืนแก่ผู้ปกครอง ส่วนจำนวนเด็กจะแก้ไขให้ไม่เกินกำหนดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา ผู้ปกครองได้เสนอไปทั้งหมด 11 ข้อ โดยอยู่ระหว่างการหารือกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองได้ยื่นข้อเสนอในกรณีที่ต้องการให้เด็กอยู่ต่อโรงเรียนต้องทำตามทั้งหมด ส่วนผู้ที่ประสงค์จะลาออกต้องคืนค่าเทอมเทอม1 ทั้งหมด