อนุทิน รอทีมแพทย์สรุปผลทดลอง 1 พันตัวอย่าง ก่อนชงลดเวลากักตัวโควิด-19

วันนี้ (28 กันยายน 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ยังไม่มีการหารือเรื่องลดระยะเวลาการกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

“แต่วันนี้ทางคณะแพทยศาสตร์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. กำลังหารือกันในวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำให้เห็นว่า การตรวจที่ได้ทำไปแล้วได้ผล หากติดเชื้อแล้วเชื้อจะปะทุขึ้นมาภายใน 4 วัน ขณะนี้ทดลองไปกว่า 100 ตัวอย่าง ซึ่งผลออกมา 100% ว่าเป็นเช่นนั้นจริง แต่ร้อยกว่ารายก็ยังไม่พอ จะเอาเป็นพันๆ ราย ต้องคุยกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ กรมควบคุมโรค ว่า ขอให้ตรวจกับกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศและอยู่ในสถานกักกันโรค หากได้กลุ่มตัวอย่างเป็นพันราย ผลออกมาตรงกัน 100% ว่า เชื้อถ้าหลังจากการตรวจแล้ว หลังจาก 4-5 วันแล้ว ไม่เป็นอะไร ก็จะนำไปประกอบการพิจารณาลดจำนวนวันที่ต้องกักกันโรค เราจะขยับ กระดึ๊บไปเรื่อยๆ เข้าไปให้เกิดความสะดวกสบายที่สุดในทุกด้าน” นายอนุทิน กล่าวและว่า เรื่องนี้ต้องถามรายละเอียดจาก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ต้องรอผลของ 1,000 ราย ก่อนถึงจะพิจารณาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตามหลักควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะจำนวนร้อยรายยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ สธ.จะให้การสนับสนุนการทดลองในทุกรูปแบบ หากมีผลดีก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

เมื่อถามว่าจะให้ได้ผลสรุปเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้คณะแพทยศาสตร์เสนอมาแล้วว่า ได้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างแล้วได้ผล และขอความร่วมมือจากกรมควบคุมโรค เพราะใช้การตรวจจากวิธี RT-PCR ที่เป็นมาตรฐาน เป็นการตรวจอีกแบบหนึ่งซึ่งใช้วิธีเจาะเลือดปริมาณน้อย

“ตรวจด้วยเลือด เหมือนการเจาะตรวจเลือดก่อนบริจาค ซึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่ได้มอบนโยบายให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าที่อธิบดีกรมควบคุมโรคคนใหม่ ว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ ทำแล้วเกิดความสะดวกสบายต่อประชาชน และการรุกเข้าไปสู้กับโควิด-19 เข้าไปได้มากยิ่งขึ้นก็ต้องทำ” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งข้อสังเกตของ รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. ว่าอาจจะไม่สามารถลดเหลือ 7 วัน ได้ทันที ควรจะลดระยะเป็น 10 วันก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ลดเป็นลำดับก็ได้

“อย่าถามคนที่ไม่ใช่แพทย์ ถ้าแพทย์ยืนยันว่าเป็นอย่างนี้ คือ 1.ตรวจหาเชื้อได้อย่างแม่นยำ 2.ต้องมีการยืนยันด้วยทฤษฎี หลักวิทยาศาสตร์ว่า หากติดเชื้อ ก็ติดอยู่แถวๆ 4 วัน ไม่เกิน หากแพทย์ยืนยัน มีการรองรับ เราก็เดินหน้า” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาใช้งบประมาณในการกักกันโรคเท่าไรและหากลดระยะเวลากักตัว จะช่วยลดงบได้มากขึ้นเท่าไร นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอนว่าทุกอย่างจะประหยัด

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้าน ว่า สถานการณ์ของประเทศเมียนมาค่อนข้างน่าเป็นห่วง สธ.ได้แจ้งไปยังทางการของเมียนมาแล้วว่า ถ้ามีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือจากประเทศไทย ก็พร้อม ในทางการทูตก็ต้องรอให้มีการร้องขอมาก่อน ส่วนไทยได้เตรียมความพร้อมยา เวชภัณฑ์ต่างๆ และการตรวจเชิงรุก เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ให้ร้านขายยาจับตาและรายงานกรณีแรงงานต่างด้าวซื้อยาแก้หวัดผิดปกติ แล้วในส่วนของร้านค้าโชว์ห่วยในไทยจะมีระบบเฝ้าระวัง ขอความร่วมมืออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย ไม่กลัว แต่ที่กลัวคือ แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาแบบผิดกฎหมาย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านโชว์ห่วย หรือร้านค้าแบบไหนก็ตามในชุมชน หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป ถ้าเห็นคนแปลกน่าจะที่เข้าเมืองมาแบบไม่ถูกต้อง ขอให้ช่วยกันสอดส่องและแจ้งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทราบ โดยเฉพาะถ้ามีอาการโรคระบบทางเดินหายใจต้องดูแลเป็นพิเศษ