‘อานนท์’ ปลุกม็อบถึงเวลาลงถนน ประกาศชุมนุมยืดเยื้อ หนทางผลักดันแก้ รธน.

‘อานนท์’ ปลุกม็อบลงถนน ลั่นเวลาเข้าข้างเรา ประกาศชุมนุมยืดเยื้อ ชี้เป็นหนทางเดียว ในการกดดันแก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 27 กันยายน 2563 ที่่ผ่านมา กลุ่มดาวดินสามัญชน ร่วมกับกลุ่มขอนแก่นพอกันทีจัดกิจกรรม “ตามหา HowTo สู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” มีประชาชนและนักเรียนนักศึกษาเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ที่บริเวณภายในสวนสาธารณะประตูเมือง ริมถนนมิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบรรดาแกนนำหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย เริ่มจากนายอนุสรณ์ อุณโณ ตัวแทนคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, นายรังสิมันต์ โรม ตัวแทนพรรคก้าวไกล และนายอานนท์ นำภา ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ และมีการแสดงดนตรีของกลุ่มดาวดิน นำโดย ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ร่วมกับแอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอตทอม บลูส์ ในขณะที่นายสุทิน คลังแสง ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีรายชื่อที่จะเดินทางมาพูดบนเวทีปราศัย ไม่ได้มาร่วมงาน

นายรังสิมันต์ โรม ตัวแทนพรรคก้าวไกล ได้ปราศรัยขอโทษประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 23-24 ก.ย. ในฐานะ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่รับใช้ประชาชน รู้สึกเสียใจ ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขรัฐธรรมมนูญได้ โดยส่วนตัวแล้วได้พิจารณาจากคำพูดของรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่พูดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา ซึ่งหมายถึงพวกเขาที่ไม่ใช่ประชาชน ปัญหาข้อที่สองคือ เมื่อรัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเขา พวกเขาจะได้อยู่กันยาวๆ ข้อที่สาม รัฐธรรมนูญแก้ยาก และแก้ไม่ได้

“ไม่มีการสอบถามความคิดเห็นจากประชาชน ทุกอย่างรัฐบาลจัดการกันเอง ในขณะเดียวกันก็จะเห็นการจิ้มแต่งตั้งส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ถูกแต่งตั้งโดยคสช. จึงทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหามากมายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็ไม่ออกมาปกป้องประชาชน จึงขอให้ประชาชนรวมตัวกัน เพื่อจะได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ในบทเฉพาะกาล รวมถึงการยกเลิก ส.ว.ที่มาจากการจิ้มของคสช.”

“ทุกวันนี้ประชาชนส่วนมาก เบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนหลายคนอยากออกมาไล่ ฉะนั้น ถ้านายกรัฐมนตรี ไม่อยากถูกไล่ นายกรัฐมนตรีต้องปิด สวิตช์ สว.เองเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนจะเดินหน้าออกมาเรียกร้องเพื่อให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่ นายอานนท์ นำภา กล่าวว่า วันนี้มาพูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องที่เตรียมไว้ที่จะพูดในช่วงเหตุการณ์วันที่ 24 ก.ย. ที่มีการจะลงมติว่าจะรับร่างหรือว่าไม่รับร่าง เพราะตอนแรกคาดหวังว่าทางสภาฯ จะมีมติรับร่าง ไม่ว่าจะร่างใด แต่ปรากฏว่าวันที่ 24 ก.ย. กลับไม่รับร่าง แม้แต่ร่างเดียว

“กลางเดือน ต.ค. เวลาเข้าข้างเราแล้ว หมดหน้าฝนต่อไปก็เป็นหน้าหนาว การชุมนุมขนาดใหญ่ การชุมนุมแบบต่อเนื่อง เป็นทางเดียวที่จะกดดันและให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเวลาของพวกเรามีไม่มาก ถ้าเราไม่แก้รัฐธรรมนูญและไม่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ ในภาคประชาชนอาจจะถูกทำให้กระแสมันเบาลง แล้วสุดท้ายก็เกิดสูญเปล่า ซึ่งการชุมนุมครั้งต่อไป เป็นการชุมนุมที่ยิ่งใหญ่ยืดเยื้อ ถ้าไม่ชนะเราก็แพ้แค่นั้น เป็นการลงทุนครั้งสุดท้ายของหลายๆ คน”

“ความหวังเราที่จะเห็นการแก้รัฐธรรมนูญตามครรลองธรรมของรัฐสภานี่มันแทบหมดไปแล้ว ฉะนั้นการที่จะพูดเรื่องนี้ ผมคิดว่ามันเป็นหนทางเดียวได้คือต้องลงถนน แล้วใช้กระบวนการทางประชาชนในการแก้ เราต้องเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก เพื่อที่จะกดดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ต้องไปพูดถึงกระบวนการตามรัฐสภาที่มี ส.ว. ที่เขาไม่อยู่กับเราแล้ว ซึ่งคิดว่าจำนวนของผู้ชุมนุมในครั้งต่อไป เป็นครั้งสำคัญ” นายอานนท์ กล่าว