น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีเจตนาเตะถ่วง แต่เนื่องจากที่มาของรัฐธรรมนูญมาจากประชามติของประชาชน 16.8 ล้านเสียง เป็นสิ่งที่รัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐ ต้องระมัดระวังในการดำเนินการด้วย ไม่ใช่มีแต่ประชาชนที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยังมีผู้ที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย
“เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ จึงต้องฟังเสียงส่วนใหญ่แต่ไม่ละเลยเสียงส่วนน้อย ต้องหาจุดที่สมดุล สามารถยอมรับกันได้ ดังนั้น การตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาจึงเป็นทางออกที่เหมาะสมในช่วงเวลานี้ ต้องฟังเสียงประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่จะเอาเฉพาะที่ถูกใจนักการเมือง หากเป็นอย่างนั้นก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้น”
น.ส.ทิพานัน กล่าวถึงกรณีเพจคณะก้าวหน้ารณรงค์ปิดสวิตช์ ส.ว. โดยระบุว่า เป็นสิ่งแปลกปลอมในระบอบประชาธิปไตยที่กวนใจประชาชนว่า เท่าที่ตนสังเกตปรากฏการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา มองเห็นสิ่งแปลกปลอมในระบอบประชาธิปไตย คือปรากฏการณ์ของการรณรงค์โจมตีกลุ่มผู้เห็นต่างทางการเมือง ทั้งที่สังคมประชาธิปไตยนั้น ควรยอมรับความเห็นที่แตกต่าง และฟังความเห็นที่แตกต่างกัน อยู่ร่วมกันได้ ถกเถียงกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การยกพวกไปรุมประชาทัณฑ์ทางโซเชียล แบนสินค้าและบริการของคนที่แสดงความเห็นนั้นๆ ถือว่าเป็นการตื่นตัวทางการเมืองในลักษณะถดถอย
“ที่ผ่านมาไม่เคยแม้สักครั้งที่จะเห็นคณะก้าวหน้า แกนนำอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล หรือ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ออกมาเตือน หรือห้ามปรามผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้เข้าใจว่าเห็นดีเห็นงามด้วยกับพฤติกรรมเช่นนี้ ดีแต่เสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในประเทศ” น.ส.ทิพานัน กล่าว