เผยแพร่ |
---|
วันที่ 25 กันยายน 2563 ที่อาคารสภาวิชาชีพ ห้องประชุมแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะผู้บริหารบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เพื่อลงนามกรอบความร่วมมือการก่อสร้างโรงงานผลิตยารักษามะเร็งระหว่างองค์การเภสัชกรรมและบริษัท ปตท.
นายอนุทิน กล่าวว่า ในรอบกว่า 20 ปีที่ผ่านมา โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย รวมไปถึงประชากรโลก ประเทศไทย มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปีละกว่า 80,000 คน ขณะที่ทั่วโลก มียอดเสียชีวิตจากมะเร็งปีละหลายล้านคน ผู้ป่วยโรคนี้ นอกจากต้องทนทุกข์กับอาการของโรคแล้ว ยังต้องพบกัยปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา ที่กลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมในวงกว้าง ยิ่งในอนาคต ที่ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ปัญหาเรื่องโรคมะเร็งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
เป็นเหตุให้ต้องคำนึงถึงเรื่องการดูแลผู้ป่วยตั้งแต่วันนี้ ซึ่งองค์การเภสัชกรรมมีองค์ความรู้ และได้รับความร่วมมือทางวิชาการในการผลิตยา แต่ขาดสถานที่ผลิต ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศไทย เป็นการศูนย์กลางด้านการแพทย์ระดับโลก จึงนำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชฯ และบริษัท ปตท.จำกัดมหาชน ในการสร้างโรงงานข้างต้น คาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างในปี พ.ศ.2565 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2570
การร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ และช่วยประหยัดงบประมาณในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ สร้างความคล่องตัวในเรื่องการจัดหายาไว้ดูแลประชาชน
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า นอกจากเรื่องการสร้างโรงงานวัคซีน ในระยะเวลาอันใกล้ ประเทศไทย จะได้รับมอบเครื่องฉายรังสีเพิ่มเติมอีก 7 เครื่อง ติดตั้งตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ เป็นการใช้งบประมาณเงินกู้ ซึ่งผ่านหลักการทั้งใน ครม.และสภาพัฒน์แล้ว โครงการนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่คนไทย ลดภาระการเดินทาง และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย