แกนนำจวก ส.ว.ลายพราง ปฏิรูปองค์กรยังไม่เสร็จ มีหน้าว่า ปชช.ชังชาติ

เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย กรุงเทพฯ คณะประชาชนปลดแอก และ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) นัดหมายจัดกิจกรรมชุมนุม “หยุดอำนาจนอกระบบประชาธิปไตย” โดยมี เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มสันติสุข และประชาชน เข้าร่วม โดยกิจกรรมจะมีการผูกโบขาว ปราศรัย และยื่นใบลาออกให้กับ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

เวลา 17.07 น. นายกานต์นิธิ ลิ้มเจริญ หรือกานต์ แกนนำคณะประชาชนปลดแอก ขึ้นปราศรัย กล่าวว่า เราใช้พื้นที่ 2,400 ตรม. คิด 1 คนต่อ ตรม. ปาเข้าไป 2,400 คน แต่ที่นี่ไม่ได้หนาแน่นเท่านี้ ถ้ามีคนชุมนุมราว 3,000 ตร. จะมีคนมาชุมนุมทั้งสิ้น 7,200 คน

นายกานต์นิธิกล่าวว่า มีสิ่งที่อัดอั้นตันใจ ระยะเวลาที่ผ่านมา พี่น้องของเราจำนวนมากพยายามยัดเงินในมือบอกว่าเป็นเอฟซี อยากสนับสนุน ผมอยากบอกว่าเงินจำนวนนี้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 600 บาท ที่นี่ 4,000 บาท ถ้าอยากบริจาค บริจาคที่กล่อง

“วันนี้เป็นวันสำคัญอะไร วันนี้เป็นวันหนึ่งที่เราถูกทำให้ลืมในฐานะประชาชน เป็นวันครบรอบ 40 ปี เหตุการณ์ฆ่าแขวนคอพนักงานการไฟฟ้า เพราะเค้าไปติดสติ๊กเกอร์ต้านรัฐประหาร อันเป็นปฐมบทความฉิบหายทางการเมืองมาจนปัจจุบันนี้” นายกานต์นิธิกล่าว

จากนั้น มวลชน ยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อเชิดชูวีรกรรม

นายกานต์นิธิกล่าวว่า ผ่านมากว่า 14 ปีไม่มีการจับฆาตกรมาลงโทษ เหตุการโกงไม่มีการจับมาลงโทษ ถูกทำให้หายไปจากประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ฉบับราษฎรแทบไม่มีบันทึกในแบบเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ โชคดีเหลือเกิน ที่คนโชดดีมาเกิด เพราะมีคนคอยหนุน เสียดายอย่างหนึ่งคือ คนโชคไม่ดีเกิดด้วยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีตัวตน ขณะที่คนหยิบมือมีตัวตน คำพูดนี้ตนไม่ได้เขียน เอามาจากกุหลาบสายประดิษฐ์ จากหนังสือพิมพ์ไทย วันที่ 27 ธันวาคม ปี 2592 74 ปีผ่านไปในวันนั้น วันนี้ยังเป็นเหมือนเดิม

นายกานต์นิธิกล่าวว่า วันนี้ต้องถามว่า ที่มา ส.ว.มาจากอะไร มาจากประชาชนหรือไม่ “ไม่” มีสิทธิอะไรเอาเงินเราไปใช้ สรรหาทั้งประเทศ 7,000 คน คัดมาเหลือ 400 คน คัดยังไงไม่รู้ ที่แน่ๆ ไม่ใช่ประชาชน คัดอีกรอบ เอาอีก 50 คน โดยคณะกรรมการที่ตั้งเอง ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ยังหน้าด้านว่า เป็น ส.ว.ตามกลุ่มความหลากหลายทางอาชีพ หลังจากนั้นก็ใช้รัฐธรรมนูญ 60 ยัด 6 คนที่ผมยัดลงตุ่มเมื่อวานนี้ ตบเท้าจากกองทัพเข้าไปในสภา กล้าเดินเข้าไปได้อย่างไร ปฏิรูปองค์กรยังทำไม่เสร็จ ยังมีหน้าชี้หน้าประชาชนว่าชังชาติ ถูกต้องแล้วหรือ และคัดอีก 400 คน เลือกอีก 94 คน โหวตตามหวามหลากหลายทางอาชีพ แต่เข้าสภา เลือก พล.อ.ประยุทธ์เพียงข้อเดียว เป็นไปได้หรือ เรื่องความน่าจะเป็น เหรียญมีสองด้าน หัว-ก้อย มีความน่าจะเป็น 50-50 ดีดสองที ความน่าจะเป็นคือ 25 หรือ 1 ใน 4 มาดูความน่าจะเป็นของ ส.ว.ที่จะมีโอกาสโหวตตรงกันคือ 2 ยกกำลัง 250 หรือ 1.8 ล้าน บวกศูนย์อีกเป็นสิบตัว การเดินทางข้ามเวลา ความน่าจะเป็นยังมากกว่า ส.ว.คิดตรงกัน ถ้าไม่ล็อบบี้จะเกิดเหตุการณ์นี้หรือไม่แล้วใครต้องทนทุกข์ ‘ประชาชน’

“หน้าที่ของ ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ให้ตรวจสอบกันเองได้ เลือกกันเองจะตรวจสอบทำไม จะมีอะไรให้ตรวจสอบ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเห็นตรวจสอบหรือไม่ อีกมาตรา ร่วมมือ ส.ส. เพื่อเปิดประชุมวิสามัญ
มาตรา 128 บังคับข้อประชุม เพื่อบังคับใช้กับประธานและรองประธาน ก็ไม่เคยทำ หน้าที่ไม่เคยทำ แต่มานั่งกินภาษี มาตรา 129 ยิ่งแสบ ตั้ง ส.ว.เป็น กมธ.วิสามัญ หมายความว่าจะหยิบใครไปนั่งก็ได้ และไปนั่งกองกันเฉยๆ ตรวจสอบการบริหาร อันนี้ยิ่งพัง มาตรา 150 ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีได้ เคยตั้งถามหรือไม่ ทุจริตมากมายเคยถามหรือไม่ นี่หรือ ส.ว.จากประชาชน

“มาตรา 153 ให้ 1 ใน 3 เปิดอภิปรายในรัฐสภา ของบอกอีกครั้งว่าไม่เคย แล้วนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อย หน้าที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ทำสักอย่าง, ถอดถอน ปปช.ได้ ถามหน่อยว่าทุกวันเคยตรวจสอบอะไรเจอบ้าง นาฬิกาเป็นของยืมเพื่อน ถ้า ป.ป.ช.ขัดขา ส.ว.ก็ไล่ออกอยู่ดี นี่มันคือสภากินรวบไม่ใช่ของประชาชน บทบาท มาตรา 156 ส.ว.ร่วมกับ ส.ส.พิจารณา ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และความเห็นเปิด-ปิดประชุมสภา ตลอดเวลาไม่เคย แล้วทำอะไร

“มาตรา 219 ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา ให้ความเห็นองค์กรอิสระในการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรม ทุกวันนี้มีจริยธรรมมากพอจะสอนนักเรียน สอนประชาชนหรือไม่ จริยธรรมยังเหลืออยู่หรือไม่ คนอย่างนี้ผ่านเข้าไปนั่งในสภาได้อย่างไร มาตรา 256 แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไปอ้อนเสียง 1 ใน 3 คือก้าวใหญ่ที่สุดของการเมืองภาคประชาชน ดูแลกฎหมายทุจริต คอร์รัปชั่น ทุจริตในกองทัพขนาดนี้ เอาอะไรมาดูความชอบธรรม ไม่มีตั้งแต่การทำงาน

“มาตรา 272 อำนาจเลือกนายกฯเข้ามา ตอนนั้นเรามี 2 ชอยส์ ส.ว.โหวตเสียงเดียวกัน 250 ไม่มีเสียงแตก โอกาสคิดเหมือนกันน้อยกว่าเดินทางข้ามเวลาเสียอีก” นายกานต์นิธิกล่าว

เวลา 18.04 น. ประชาชนชูสามนิ้วร้องเพลงชาติร่วมกัน