“เขตรัฐ” ยื่น “ชวน”ขอจัดสรรเวลาอภิปรายแก้รธน. ย้ำ จุดยืน รปช.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ไม่จำเป็นต้องเคารพมติวิปรบ.

ภาพจากเพจ เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ - Katerut Laothamatas

“เขตรัฐ” ยื่น “ชวน”ขอจัดสรรเวลาอภิปรายแก้รธน. ย้ำ จุดยืน รปช.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน. ไม่จำเป็นต้องเคารพมติวิปรบ.

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.เวลา 08.05 น.ที่รัฐสภา นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)ในฐานะโฆษกพรรค ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เกี่ยวกับการจัดสรรเวลาให้แก่สมาชิกรัฐสภาเพื่ออภิปรายร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายเขตรัฐ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของฝ่ายเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย จากที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยเคยมีมติว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เป็นฉบับที่ดีฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นการถอดบทเรียนจากความขัดแย้งมากว่า 10 ปี และรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทของประเทศ ทำให้การแก้ไขไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน วันนี้ถึงแม้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้ไม่ใช่การพิจารณางบประมาณแผ่นดินที่จำเป็นต้องเคารพมติ วิปรัฐบาล จึงเห็นว่าการจัดสรรเวลาในการอภิปรายต้องจัดสรรตามหลักการระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะถึงแม้พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมี ส.ส.เพียง 5 เสียง แต่ก็ควรได้รับการจัดสรรเวลาเท่าๆกับพรรคที่เห็นด้วยกับการแก้ไข
นายเขตรัฐ กล่าวต่อว่า ตนมีข้อสังเกตเรื่องความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ มาตรา 77 และ มาตรา 78 ซึ่งพรรคฯ ได้มีการศึกษาร่างแก้ไขทั้ง 6 ญัตติ ที่จะมีการแก้ไข และมีความคิดเห็นว่าโดยนัยยะของ มาตรา 77 วรรค2 มีใจความสำคัญ 3 ข้อ คือ 1.ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง 2.วิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้านและเป็นระบบ ก่อนการตรากฎหมาย การเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นต่อประชาชน และ 3.การนำความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบมาประกอบการพิจารณาในการตรากฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นฉบับที่มีประชาชน จำนวน 16.8 ล้านคน ร่วมกันลงมติรับร่าง หากเปรียบเทียบเป็นจำสวน ส.ส. ในการเลือกตั้งตามสัดส่วนแล้ว เทียบได้กับ ส.ส.ประมาณ 240 กว่าคน ดังนั้นขอให้ติดตามการอภิปรายขอ งส.ส.พรรคฯ ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น มุมมอง และแง่คิด และขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนได้มอบหมายให้ในสภาฯทรงเกียรติแห่งนี้