สงครามน้ำลายลามเวที UNGA ทรัมป์โทษจีนแพร่ไวรัสโคโรนา

สงครามน้ำลายลามเวที UNGA ทรัมป์โทษจีนแพร่ไวรัสโคโรนา

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้ลุกลามไปถึงเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ (ยูเอ็นจีเอ) ครั้งที่ 75 ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็น ณ นครนิวยอร์ก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ใช้เวทีดังกล่าวเพื่อการกล่าวโทษจีนว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปทั่วโลก พร้อมทั้งระบุด้วยว่าจีนจะต้องรับผิดชอบต่อการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

ขณะที่ในถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เป็นไปในทิศทางที่เป็นมิตรด้วยการเรียกร้องให้เห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกันรับมือกับการแพร่ระบาด พร้อมกับย้ำว่า ประเทศจีนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้าสู่สงครามเย็นกับประเทศใดๆ ก็ตาม

นายจาง จุน เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็น ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของทรัมป์ต่อประเทศจีน ว่าเป็นคำกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นการย้ำคำโกหกที่พูดมาแล้วเป็นพันครั้งซึ่งก็ยังคงเป็นคำโกหกอยู่นั่นเอง

ทรัมป์ซึ่งกำลังจะต้องเผชิญกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ขณะที่ประเทศสหรัฐเป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในโลก กล่าวถ้อยแถลงด้วยการพุ่งเป้าไปที่การโจมตีจีน

ผู้นำสหรัฐกล่าวหาจีนว่าปล่อยให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศในช่วงต้นที่เกิดการแพร่ระบาดจนทำให้ประเทศอื่นๆ ในโลกติดเชื้อ ขณะที่ทำการปิดกั้นการเดินทางภายในประเทศของตนเอง จีนจึงต้องรับผิดชอบที่แพร่เชื้อไวรัสไปทั่วโลก

“รัฐบาลจีนและองค์การอนามัยโลกซึ่งถูกควบคุมโดยจีนยังประกาศข้อมูลเท็จ ว่าไม่มีหลักฐานของการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ในเวลาต่อมายังโกหกว่าผู้ที่ไม่มีอาการของโรคจะไม่แพร่โรค ดังนั้นยูเอ็นจะต้องให้จีนรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว”ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ยังสัญญาว่าจะกระจายวัคซีนต้านโควิดให้กับประชาชน และว่าเราจะเอาชนะไวรัสและยุติการแพร่ระบาดใหญ่ครั้งนี้

ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสีได้เรียกร้องให้โลกช่วยกันตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ภายใต้การมีบทบาทนำขององค์การอนามัยโลก โดยย้ำว่าเราต้องสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ด้วยกัน ภายใต้คำแนะนำทางด้านวิทยาศาสตร์และให้บทบาทนำกับองค์การอนามัยโลก พร้อมกับร่วมมือกันในระดับนานาชาติ โดยปฏิเสธความพยายามใดๆ ที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นทางการเมืองหรือติเตียนประณามกัน

ขณะที่องค์การอนามัยโลกออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของทรัมป์เช่นกัน โดยย้ำว่าไม่มีรัฐบาลของประเทศไหนควบคุมการทำงานขององค์การอนามัยโลก และในวันที่ 14 มกราคม เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคขององค์การอนามัยโลกได้บอกต่อสื่อมวลชนถึงความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาดจากคนสู่คนของโควิด-19 ขณะที่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกก็ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของผู้ป่วยที่ไม่มีอาการของโรค รวมถึงผู้ที่มีอาการของโรคด้วยเช่นกัน