เตรียมวางแผนเที่ยวหยุดยาว4วัน2ช่วง 19-22พ.ย./10-13 ธค.

วันที่ 23 กันยายน เตรียมวางโปรแกรมทัวร์-จองที่พักล่วงหน้าเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ซึ่งจะมีวันหยุดยาว 4 วัน 2 ช่วง คือ 19-22 พฤศจิกายน และ 10-13 ธันวาคม เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในการกำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ จากการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯไปหารือร่วมกับภาคเอกชนและภาครัฐ โดยเห็นว่าในเดือนตุลาคม เป็นเดือนที่มีวันหยุดราชการอยู่แล้ว คือวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม (วันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่9)และวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม (วันปิยมหาราช) ดังนั้นในเดือนตุลาคมจึงจะไม่มีวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า แต่ในเดือนตุลาคมนั้นส่วนราชการต่างๆ จะมีการจัดพิธีถวายผ้ากฐินทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภาครัฐ จึงได้เสนอ และแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ว่าหากมีกำหนดการถวายกฐินในต่างจังหวัดช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ข้าราชการที่เดินทางไปก่อนช่วงวันศุกร์หรือเดินทางกลับช่วงวันจันทร์ให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการตามปกติโดยไม่ถือเป็นช่วงวันลา

“แต่ในเดือนพฤศจิกายน ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ประชุมจึงเสนอว่าควรให้มีวันหยุดราชการพิเศษ คือวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน และวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563 จะทำให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องไปถึงวันเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้นรวมเป็นวันหยุดตั้งแต่วันที่ 19 – 22 พฤศจิกายน รวม 4 วัน ส่วนเดือนธันวาคม จะมีวันหยุดราชการคือวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม ซึ่งปกติต้องหยุดชดเชยวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม ที่ประชุมครม. เสนอให้เลื่อนวันหยุด ชดเชยวันที่ 7 ธันวาคม ไปหยุดชดเชยในวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคมแทน ดังนั้นวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคมจะไม่ใช่วันหยุด แต่จะไปหยุดวันที่ 11 ธันวาคม ขณะที่วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคมเป็นวันรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นวันหยุดอยู่แล้ว ทำให้ได้หยุดต่อเนื่องยาว 4 วัน คือวันที่ 10-13 ธันวาคม”น.ส.ไตรศุลีกล่าว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า นอกจากนี้ครม.ยังมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปศึกษา เกี่ยวกับการกําหนดวันหยุดราชการประจําภูมิภาคตามเทศกาลประเพณีท้องถิ่นที่สําคัญของแต่ละภูมิภาค เช่น ประเพณียี่เป็งของภาคเหนือ ประเพณีไหลเรือไฟของภาคอีสาน ประเพณีสารทเดือนสิบของภาคใต้ และควรทําตารางกิจกรรมท่องเที่ยว ของแต่ละท้องที่ในแต่ละเดือน นอกจากนี้ยังให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯไปศึกษาเกี่ยวกับการกําหนดวันหยุดราชการครึ่งวันเป็นกรณีพิเศษ เช่น ครึ่งบ่ายของวันศุกร์ และครึ่งเช้าของวันจันทร์ ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมเสนอว่าจะช่วยให้ได้ประโยชน์จากระยะเวลาการพํานักที่ยาวนานขึ้น