จีนสั่งแบน “อาหารทะเลแช่แข็ง” จากบริษัทยักษ์สัญชาติอินโดฯ หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19

People shop for fish from a stall, 08 November 2000 in Hong Kong, where results from Asia's most comprehensive study on food have found that despite dramatic improvements in health and nutrition across the region in recent years, food and eating cause more stress and tension than ever before. The study by international public relations firm Ogilvy and Mather found that growing awareness of the modern city's problems from pollution to mercury-laden seafood is dampening a traditional zest for food and eating. AFP PHOTO / Frederic J. BROWN (Photo by FREDERIC BROWN / AFP)

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัท พี. ที. ปุตรีอินดาห์ (Pt putri indah) ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกสินค้าทะเลแปรรูปรายใหญ่ของอินโดนีเซีย เผชิญปัญหาใหญ่ ภายหลังทางการจีนตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาในบรรจุภัณฑ์ของเนื้อปลาแฮร์เทลแช่แข็ง ทำให้กรมศุลกากรของจีนสั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจากบริษัท พี. ที. ปุตรีอินดาห์ ทันทีเป็นเวลา 1 สัปดาห์

โดยจากการตรวจสอบอาหารทะเลแช่แข็งทั้งหมดราว 500,000 ตัวอย่าง พบจำนวน 6 ตัวอย่างที่การทดสอบเชื้อไวรัสโคโรน่ามีผลเป็นบวก ขณะที่ทางบริษัทพี. ที. ปุตรีอินดาห์ ยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ

ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้สั่งห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป รวมถึงเนื้อสัตว์แช่แข็ง เช่น กุ้งจากเอกวาดอร์ และปีกไก่จากบราซิล ภายหลังตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลและภาชนะนำเข้าจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด ทำให้พบที่มาของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่หลายครั้ง

รายงานระบุว่าเมื่อวันเสาร์ (19 กันยายน) ที่ผ่านมา กระทรวงกิจการนาวีและประมงของอินโดนีเซีย ชี้แจงว่า อินโดนีเซียยังสามารถส่งออกอาหารทะเลไปจีนได้ โดยทางการจีนได้ระงับสินค้านำเข้าจากบริษัท พี. ที. ปุตรีอินดาห์เท่านั้น และไม่ได้ห้ามนำเข้าสินค้าทะเลแปรรูปจากบริษัทรายอื่นของอินโดนีเซีย โดยจีนถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่สุดในการส่งออกอาหารทะเลของอินโดนีเซีย

โดยมีการส่งออกมากกว่า 168,300 ตันในปี 2019 มูลค่ากว่า 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามสถิติการค้าของอินโดนีเซีย ส่งผลให้ทางการของอินโดนีเซียต้องเร่งตรวจสอบใบรับรองด้านสุขอนามัยจากผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการถูกระงับการนำเข้าจากจีน