ตร.แจงต้องเอาหมุดออก ชี้เป็นส่วนเกินสนามหลวง เร่งรวมหลักฐานฟันม็อบ19ก.ย.

ตร.แจงต้องเอาหมุดออก ชี้เป็นส่วนเกินสนามหลวง เร่งรวมหลักฐานฟันม็อบ19ก.ย.

เมื่อวันที่ 21 กันยายน รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมมธ.จัดกิจกรรมฝังหมุดบริเวณสนามหลวง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 20 กันยายนว่า กรณีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ออกไปรับหนังสือจากแกนนำ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เมื่อรับหนังสือมาแล้วคงดำเนินการไปตามขั้นตอนธุรการ ประมวลผลตามลำดับชั้นไปที่ตร. และส่งไปยังหน่วยงานรับหนังสือต่อไป ส่วนระยะเวลาดำเนินการจะทำอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ผบช.น.ไม่ใช่ตัวแทนสำนักงานองคมนตรีแต่อย่างใด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตำรวจอยากให้เกิดขึ้น คือมีการเจรจาต่อรอง ในกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็คงมีความสบายใจที่ไม่ต้องชุมนุมต่อเนื่อง

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) กล่าวว่า แกนนำได้เจาะพื้นผิวสนามหลวงเพื่อปักหมุดคณะราษฎร พื้นที่สนามหลวงเป็นโบราณสถาน มี 2 หน่วยงานดูแลคือ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงวัฒนธรรม ตำรวจได้ประสานไปยังหน่วยงานดังกล่าวแล้วว่าการกระทำดังกล่าวเข้าองค์ประกอบความผิดใด แต่หากดูจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็น่าจะเป็นความผิดตามกฎหมาย ถ้าเป็นสิ่งที่เกินมา ไม่มีความจำเป็นในสนามหลวง กทม. คงพิจารณาเอาหมุดออก

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 19-20 กันยายน มีความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน ช่วงแรก คือ ออกจากม.ธรรมศาสตร์ เข้าสู่สนามหลวง การชุมนุมโดยไม่แจ้งให้ตำรวจทราบ ถือว่าเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนที่สอง เมื่อเข้าไปในสนามหลวงแล้ว แต่อยู่จนกระทั่งล่วงเลยการเปิดให้บริการ และความผิดส่วนที่สาม การปักหมุด ถือเป็นส่วนเกิน และไม่ใช่สิ่งที่พึงมีในท้องสนามหลวง การกระทำผิดทั้งหมดตำรวจได้บันทึกภาพและเสียงไว้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน

ทั้งนี้ในส่วนแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีถ้อยคำและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) กับทีมพนักงานสอบสวนอีกกว่า 40 คน ได้บันทึกภาพหลักฐานและเสียง ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม และการปราศรัย ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกับฝ่ายกฎหมาย ว่าเข้าข่ายความผิดใดต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีแกนนำนัดชุมนุมอีกครั้งวันที่ 23-24 กันยายนว่า ตำรวจมีความพร้อมรองรับสถานการณ์ให้เกิดความเหมาะสม เมื่อมีการใช้แผนชุมนุม 63 แล้ว โดยหลักแม้ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่ไม่ได้มุ่งจะใช้กำลังกับผู้ชุมนุม เป็นการปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ เอาบทเรียนที่ผ่านมา หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มาใช้ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีทางออก ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าคือความสำเร็จของการเจรจาระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ และเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายอยากเห็น

ข่าวแจ้งว่ามีการถอดหมุดดังกล่าวออกแล้วในช่วงกลางคืนวันที่ 20 ก.ค.