สหรัฐโดดเดี่ยว เดินหน้าแซงก์ชั่นอิหร่าน ไม่เหลือบตาดูพันธมิตร พากันเซ็ง

วันที่ 20 ก.ย. เอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐอเมริกาประกาศอยู่ฝ่ายเดียวว่ามติแซงก์ชั่นจากสหประชาชาติหรือยูเอ็นต่ออิหร่านกลับมามีผลบังคับใช้ พร้อมประกาศกร้าวว่าจะลงโทษสมาชิกยูเอ็นที่ฝ่าฝืนมติแซงก์ชั่น

เมื่อปี 2558 สมัยรัฐบาลบารัก โอบามา แซงก์ชั่นถูกยกเลิกแลกกับการที่อิหร่านลงนามข้อตกลงไม่สร้างอาวุธนิวเคลียร์ แต่ต่อมาปี 2561 รัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว และหวนใช้มาตรการแซงก์ชั่นอิหร่าน

นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ทั้งเสี่ยงต่อความตึงเครียดในระดับโลก และแม้แต่พันธมิตรสหรัฐยังไม่เห็นด้วย ระบุไม่อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย

นายไมก์ พอมเพโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า สหรัฐยินดีต่อการกลับมาของมติแซงก์ชั่น ของยูเอ็นต่ออิหร่านจากเดิมที่สิ้นสุดลง มติแซงก์ชั่นดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไปตามเวลาสหรัฐ

หากสมาชิกยูเอ็นประเทศใดไม่ปฏิบัติตามมติ สหรัฐพร้อมจะใช้อำนาจภายในจัดการผู้ที่ฝ่าฝืน และจะประกาศให้ทราบภายหลังถึงมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืน ซึ่งคาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอาจเปิดเผยมาตรการลงโทษระหว่างที่ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นจีเอ วันอังคารที่ 22 ก.ย.นี้

ย้อนไปในเวทีการประชุมสภาความมั่นคงของยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีเมื่อกลางเดือนส.ค. สหรัฐคว้าน้ำเหลวเมื่อพยายามขยายระยะเวลาการแซงก์ชั่นไม่ค้าขายอาวุธไปยังอิหร่าน ซึ่งมีกำหนดหมดอายุในเดือนต.ค. 2563 แต่สมาชิกมหาอำนาจอื่นๆ ระบุว่าการแซงก์ชั่นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จีนและรัสเซียไม่เห็นด้วยกับสหรัฐ

แม้กระทั่งพันธมิตรของสหรัฐจากยุโรป อย่างฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี แถลงว่า การกระทำหรือการตัดสินใจใดๆ ด้วยมุมมองที่จะหวนใช้มติแซงก์ชั่นดังกล่าวนั้นจะไม่มีผลทางกฎหมาย ทำให้นายพอมเพโอหันไปกล่าวโจมตีพันธมิตรว่า อยู่ข้างอยาตอลเลาะห์ของอิหร่าน

ด้าน นายซาอิด คาติบซาเดห์ รมว.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวเรียกร้องให้ชาติอื่นๆ ร่วมกันต่อต้านการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของสหรัฐ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย พันธมิตรที่สำคัญของอิหร่านประณามการกระทำของสหรัฐว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่สามารถยอมรับได้ และไม่มีผลทางกฎหมายต่อนานาชาติได้

อีกทั้งแถลงการณ์ของสหรัฐไม่สัมพันธ์กับความจริง กล่าวหาสหรัฐว่าพยายามที่จะบีบให้ทุกคนสวมแว่นตาเสมือนจริงและยอมรับเรื่องเล่าเหตุการณ์ในเวอร์ชั่นของสหรัฐ โลกไม่ใช่เกมคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ

“สหรัฐไม่ควรทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง แต่ละทิ้งแนวปฏิบัติเพื่อทำลายข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามเมื่อปี 2558” กระทรวงการต่างประเทศระบุ

ส่วนนักการทูตประจำยูเอ็นบางรายระบุแถลงการณ์ของสหรัฐไม่สร้างสรรค์ นักการทูตคัดค้านการทำในลักษณะฝ่ายเดียวของสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียและจีนกำลังนั่งอย่างสบายใจ กินป๊อปคอร์นดูเหตุการณ์ที่ไร้เสถียรภาพครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐกับพันธมิตรยุโรป

ด้านรองทูตของรัสเซียประจำยูเอ็น นายดมิตทรี โปลยันสกี กล่าวว่าสมาชิกยูเอ็นเอสซีหารือตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมาแล้วว่า คำกล่าวอ้างของสหรัฐเพื่อหวนใช้แซงก์ชั่นต่ออิหร่านนั้นขาดความชอบธรรม สหรัฐหูหนวกหรือไม่