เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในที่ 23-24 ก.ย.ว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น นับแต่ครั้งที่มีการทำประชามติที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และไม่รับคำถามพ่วงในเรื่องการให้อำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อผ่านการทำประชามติเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงเป็นหลักการสำคัญของพรรคที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ประกาศชัดเป็นคนแรกที่จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 256 ที่จะต้องแก้ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่สามารถแก้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งพรรคได้ร่วมยื่นญัตติต่อรัฐสภาไปแล้วคือ ร่างที่แก้ มาตรา 256 และให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อให้มีสภาที่มาจากประชาชนมาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ และต้องยอมรับว่ามีหลายมาตราที่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยประเด็นต่างๆ จะได้มีการนำไปทบทวนใน ส.ส.ร.ต่อไป

นายราเมศกล่าวต่อว่า ต้องขอบคุณวิปทั้ง 3 ฝ่ายที่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายจุรินทร์ ให้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน วิปวุฒิฯ ก่อนการพิจารณาในวาระที่ 1 ในวันอังคารที่ 22 ก.ย.นี้ เพื่อมุ่งหวังผลสำเร็จ ทั้งนี้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรค จะได้นำเสนอหลักการ และแสวงหาแนวร่วมทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่าย ส.ว.เพื่อให้มีการแก้ไขตามร่างที่ได้ยื่นต่อรัฐสภาให้เป็นผลสำเร็จต่อไป