ศาลสหรัฐ ตัดสินคุก 17 ปี “อังเคิลบิล” พร้อม 4 หญิงไทย หลอกหญิงไทยค้ากามอื้อ

ศาลสหรัฐ ตัดสินคุก 17 ปี “อังเคิลบิล” พร้อม 4 หญิงไทย หลอกหญิงไทยค้ากามอื้อ

เว็บไซต์ สยามทาวน์ยูเอส เว็บไซต์รายงานข่าวเกี่ยวกับคนไทยในสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อวันที่ 18 กันยายนว่า ศาลสหรัฐได้ พิพากษาจำคุก “ไมเคิล มอร์ริส” หัวหน้าแก๊งค้าหญิงไทยข้ามชาติ 17 ปี หนักสุดในบรรดาผู้ต้องหาระดับ “หัวหน้า” ที่เป็นสาวไทยอีกสี่คนที่ทะยอยรับคำพิพากษาไปแล้วสามคน คนละกว่าสิบปี

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2020 ผู้พิพากษา โดโนแวน แฟร็งค์ แห่งศาลสหรัฐฯ ประจำเขตมินนิโซต้า ประกาศคำพิพากษาจำคุก 17 ปีแก่ ไมเคิล มอร์ริส วัย 66 ปี ชาวเมืองซีลบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในจำเลย เกือบ 40 คนในคดีล่อลวงผู้หญิงไทยจำนวนมากมาขายตัวในสหรัฐฯ ซึ่งสยามทาวน์ยูเอส ได้ติดตามข่าวมานำเสนออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2016

ข่าวบอกว่า ไมเคิล มอร์ริส หรือ “อังเคิลบิลล์” เป็นหนึ่งในห้าของกลุ่มจำเลยระดับ “หัวหน้าแก๊ง” ที่ศาลได้ตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 และว่าไมเคิล มอร์ริส เป็นจำเลยคนที่ 29 (จากเกือบ 40 คน) ของคดีค้ามนุษย์ ที่ถูกเรียกว่า “ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอเมริกา” ที่ถูกพิพากษา และถูกพิพากษาจำคุกนานที่สุดด้วย

ไมเคิล มอร์ริส และกลุ่มจำเลยระดับหัวหน้า เรียกว่า house bosses ซึ่งเป็นคนไทยอีกสี่คน คือ ภาวินี อันประดิษฐ์ (Pawinee Unpradit) หรือฝน วัย 47 ปี ชาวเมืองดัลลัส เท็กซัส, เสาวภา ถิ่นราม (Saowapha Thinram) หรือแนนซี่ หรือกุ้ง วัย 45 ปี ชาวเมืองฮัทโต้ รัฐเท็กซัส , ธัชรินทร์ รัตนมงคลกุล (Thoucharin Ruttanamongkongul) หรือน้อย วัย 36 ปี จากชิคาโก้ และ วราลี วันเลสส (Waralee Wanless) หรือวัน วัย 41 ปีจากเมืองโคโลนี รัฐเท็กซัส นั้น มีหน้าที่วางแผนและดำเนินการส่งผู้หญิงไทยเหล่านี้ไปทำงานในหลายรัฐ โดยเช่าโรงแรม บ้าน อพาร์ทเมนท์ หรือกระทั่งร้านนวด เป็นสถานที่ทำการ ดูแลเรื่องการประกาศโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆ เช่น  Backpage และ Eros. บางกรณีมีการบังคับให้เหยื่อทำศัลยกรรมหน้าอก เพื่อให้มีเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้น โดยค่าทำศัลยกรรมจะกลายเป็นหนี้สินของเหยื่อต่อไป

คำฟ้องของอัยการ ระบุบทบาทของ house bosses เหล่านี้ว่าทำหน้าที่ประกาศโฆษณา ดูแลการเดินทางของเหยื่อ และเก็บเงินค่าขายบริการของเหยื่อด้วย โดยจะหักเงินเอาไว้ 60 เปอร์เซ็นต์ เหลือให้เหยื่อเพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

“การค้ามนุษย์ ยังคงเป็นปัญหาอาชญากรรมที่น่ารังเกียจ ทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับนานาชาติ” อัยการสหรัฐฯ อีริก้า แม็คโดนัลด์ ระบุในแถลงการณ์ “คดีนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงและไม่ย่อท้อของผู้รักษากฎหมายในทุกพื้นที่ ในการเอาตัวผู้กระทำผิดมาสู่กระบวนการยุติธรรม”

ข่าวบอกว่าแต่เดิมนั้น อัยการร้องศาลให้พิพากษาจำคุกไมเคิล มอร์ริส 24 ปี แต่ทนายความของจำเลยท้วงว่าลูกความของตัวเองอายุมากแล้วและสุขภาพไม่ดี ดังนั้นโทษจำคุก 24 ปีก็ไม่ต่างกับโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยขอให้ศาลสั่งจำคุกลูกความของเขาเพียงไม่เกิน 15 ปี

นอกจากนี้ โรเบิร์ท ริชแมน ทนายความของ ไมเคิล มอร์ริส ได้ขอความเมตตาต่อศาลด้วยว่าแม้จะมีส่วนร่วมในกระบวนการค้าผู้หญิงไทยเหล่านี้จริง แต่ตลอดเวลา ลูกความของตนไม่เคยบังคับ ขู่เข็ญ ทำร้าย, ฉ้อโกง หรือทำอันตรายใครเลย เพราะผู้หญิงไทยทุกคนสมัครใจที่จะทำงาน

ข่าวบอกว่า ไมเคิล มอร์ริส รวมถึงจำเลยระดับหัวหน้าอีกสี่คน ถูกคณะลูกขุนตัดสินว่าผิดจริงตามคำฟ้องทั้งสี่ข้อหาหา ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 โดยข้อหาทั้งสี่คือ Conspiracy to commit sex trafficking, Conspiracy to commit transportation to engage in prostitution, Conspiracy to engage in money laundering, Conspiracy to use a communication facility to promote prostitution และ Sex trafficking by use of force, fraud, and coercion

นอกจากโทษจำคุก 17 ปีแล้ว ผู้พิพากษายังสั่งให้ ไมเคิล มอร์ริส ต้องอยู่ภายใต้ควบคุมของเจ้าหน้าหลังพ้นโทษอีกห้าปี และต้องจ่ายเงินชดใช้อีก 750,000 ดอลลาร์ด้วย

ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่าขบวนการค้ามนุษย์ที่มี ไมเคิล มอร์ริส และกลุ่มคนไทยอีกห้าคนเป็นแกนนำดังกล่าวนี้ เริ่มทำการหลอกลวงผู้หญิงจำนวน “หลายร้อยคน” มาจากประเทศไทยตั้งแต่ปี 2009 โดยชักชวนมาทำงานในร้านอาหาร ดูแลเด็ก-ผู้สูงอายุ นวด ฯลฯ โดยจะเป็นฝ่ายดูแลค่าใช้จ่าย เช่นค่าเดินทาง, ค่าทำหนังสือเดินทาง/วีซ่า ฯลฯ และเมื่อมาถึงก็ถูกส่งไปทำงานใช้หนี้ โดยการค้าประเวณีในหลายเมืองทั่วประเทศ เช่นมินนิโซต้า, ลอส แอนเจลิส, ชิคาโก้ ฯลฯ

โดยคำฟ้องระบุว่าผู้หญิงไทยเหล่านี้จะถูกกักขัง หรือควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก รวมถึงมีการข่มขู่ว่าหากไม่ร่วมมือหรือหลบหนี จะทำอันตรายครอบครัวที่ประเทศไทยด้วย

ในส่วนของ ไมเคิล มอร์ริส นั้น คำฟ้องบอกว่าทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลซ่องโสเภณี หรือ houses of prostitution สามแห่งในแคลิฟอร์เนียใต้ ซึ่งเหยื่อที่ให้การเป็นพยานในคดีนี้ บอกว่าเขาเป็นคนบังคับผู้หญิงไทยรับแขกมากถึงสิบคนต่อวัน

คดีค้ามนุษย์ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอเมริกาครั้งนี้ ข่าวบอกว่ามีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหามากกว่า 30 คน โดยแยกดำเนินคดีเป็นสองชุด ชุดแรกมีการจับกุมเมื่อเดือนตุลาคม 2016 มีผู้ต้องหาประมาณ 17 คน เป็นคนไทยอย่างน้อย 12 คน และชุดที่สอง มีการจับกุมและตั้งข้อหาในเดือนพฤษภาคม 2017 มีผู้ต้องหาประมาณ 21 คน

โดยผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงไทยนั้น ข่าวบอกว่าส่วนใหญ่เคยเป็น “เหยื่อ” ของขบวนการค้ามนุษย์มาก่อน และกลายมาเป็นทีมงานในภายหลัง

ข่าวบอกว่าขณะนี้ จำเลยส่วนใหญ่ในคดีนี้ ไดัให้การรับสารภาพ และถูกพิพากษาโทษไปแล้วเกือบทั้งหมด เหลือเพียงจำเลยระดับหัวหน้าทั้งห้าคน ที่เพิ่งจะมีการพิพากษาโทษในช่วงนี้

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2020 ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ประจำเขตมินนิโซต้า ได้พิพากษาโทษจำคุก 144 เดือน (12 ปี) ในคุกของรัฐบาลกลาง ให้กับ วราลี วันเลสส์ (Waralee Wanless) หญิงไทยในเท็กซัส หนึ่งในจำเลยที่ถูกระบุว่าเป็น “หัวหน้า” ของขบวนการค้าผู้หญิงไทยไปแล้วจากข้อหาสี่ข้อ (เหมือนกับของ ไมเคิล มอร์ริส)

และหลังจากพ้นโทษจำคุกแล้ว วราลี วันเลสส์ ยังจะต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่ออีกไปห้าปีด้วย

โดยคำฟ้องระบุว่า วราลี วันเลสส์  ดูแลซ่องโสเภณีในดัลลัส, ชิคาโก้ และวอชิงตัน ดีซี และช่วยดูแลเครือข่ายในอีกหลายเมือง เช่น มินนีอาโปลิส, ลอส แอนเจลิส, แอตแลนต้า, ฟีนิกซ์, ลาสเวกัส, ฮุสตัน, ออสติน และซีแอตเติล

ส่วนเสาวภา ถิ่นราม (Saowapha Thinram) หรือแนนซี่ หรือกุ้ง วัย 45 ปี ชาวเมืองฮัทโต้ รัฐเท็กซัส นั้น ถูกศาลพิพากษาจำคุก 120 เดือน (10 ปี) ไปตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2019 ขณะที่ ธัชรินทร์ รัตนมงคลกุล (Thoucharin Ruttanamongkongul) หรือน้อย วัย 36 ปี จากชิคาโก้ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 142 เดือน (11.8 ปี) ไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2019

ดังนั้น จึงเหลือเพียง ภาวินี อันประดิษฐ์ (Pawinee Unpradit) หรือฝน วัย 47 ปี ชาวเมืองดัลลัส เท็กซัส เท่านั้น ที่ยังไม่ถูกพิพากษาโทษ.

อนึ่ง ในการแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าผู้หญิงไทยครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2016 นั้น มีการระบุชื่อของผู้หญิงไทยคนหนึ่ง คือ สุมาลี อินทร์ทอง (Sumalee Intrathong) หรือจอย วัย 55 (ขณะนั้น) ว่าเป็นหัวหน้าใหญ่ของขบวนการนี้ และเป็นผู้ที่เดินทางไปหลอกลวงผู้หญิงมาจากประเทศไทยด้วย โดยมีการตั้งข้อหาอาญารุนแรงให้กับ สุมาลี อินทร์ทอง ถึง 7 กระทง

แต่ขณะนั้น สุมาลี อินทร์ทอง ถูกทางการประเทศเบลเยี่ยมจับกุมตัวเอาไว้ (เมื่อเดือนสิงหาคม 2016) ด้วยคดีที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีในอเมริกา ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนั้น มีการระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะประสานงานกับประเทศเบลเยี่ยม เพื่อขอตัว สุมาลี อินทร์ทอง มาดำเนินคดีในอเมริกา หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายของเบลเยี่ยมแล้วด้วย.

ขอบคุณเนื้อหาจาก สยามทาวน์ยูเอส