วันที่ 16 ก.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เยอรมนีจะรับผู้อพยพมากกว่า 1,500 คน ที่ยังพักพิงอยู่ในกรีซ หลังเกิดไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโมเรีย ค่ายผู้อพยพขนาดใหญ่สุดของประเทศและยุโรป บนเกาะเลสบอส เมื่อสัปดาห์ก่อน

ชเทฟเฟิน ไซแบร์ท โฆษกนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล แถลงว่า เยอรมนีจะรับผู้อพยพ 1,553 คน จาก 408 ครอบครัว ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว ถือเป็นจำนวนมากกว่า 10 เท่า ที่เยอรมนีประกาศก่อนหน้าจะรับ เด็กไร้ผู้ดูแล 150 คน จากค่ายผู้อพยพโมเรีย

นอกจากนี้ รัฐบาลเยอรมนีมุ่งมั่นหาวิธีแก้ปัญหาของสหภาพยุโรป (European solution) ต่อไป ร่วมกับชาติสมาชิกอื่นๆ ในอียูที่ยินดีต้อนรับผู้อพยพ ส่วนเยอรมนีจะเพิ่มความพยายามแก้ปัญหาผู้อพยพให้สอดคล้องกับขนาดของประเทศตัวเองด้วย

ก่อนหน้านี้ ไฮโค มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี บรรยายสถานการณ์ไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโมเรียเป็น “หายนะมนุษยธรรม” จึงรีบชี้แจงต่อคณะกรรมธิการสหภาพยุโรป (อียู) และชาติสมาชิกอียูอื่นๆ ที่ยินดีช่วยเหลือ ถึงแนวทางการสนับสนุนกรีซ รวมถึงการกระจายผู้อพยพไปบรรดาชาติสมาชิกอียูที่ยินดีรับพวกเขา

ต่อมา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูเอล มาครง แถลงว่า เยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังประสานงานร่วมกันเพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหา และพยายามรวบรวมประเทศในยุโรปที่ยินดีรับผู้ลี้ภัยและเด็กโดยเฉพาะตามความต้องการของรัฐบาลกรีซ

ส่วนความคืบหน้าไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโมเรีย ตำรวจกรีซจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้อง 5 คน ทั้งหมดเป็นพลเมืองสัญชาติอัฟกานิสถาน เป็นผู้ใหญ่ 3 คน และเยาวชน 2 คน นอกจากนี้ ผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัว

ไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโมเรียทำให้ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยมากกว่า 13,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ทางการกรีซกำลังก่อสร้างค่ายผู้อพยพหลังใหม่ แต่กลับไม่เป็นที่ต้องการจากชาวเกาะเลสบอสจำนวนมากที่เคยอยู่อาศัยพื้นที่ค่ายผู้อพยพโมเรีย ขณะที่องค์การสิทธิมนุษยชนและองค์การนอกภาครัฐต่างๆ เตือนว่า ผู้อพยพกำลังอาศัยอยู่ในภาวะอันตรายเนื่องจากขาดสุขอนามัยที่ดี

เบลคิส วิลเลอ นักวิจัยอาวุโสด้านวิกฤตและความขัดแย้งแห่ง ฮิวแมนไรต์สวอตช์ ระบุว่า บรรดาผู้นำยุโรปควรดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อให้ผู้อพยพที่ติดค้างอยู่บนเกาะเลสบอสมามีความปลอดภัย และเตือนว่า ผู้หญิงเปราะบางหลายคนถูกทิ้งลำพังตามถนนบนเกาะเลสบอสโดยไร้การปกป้องความปลอดภัย