วันที่ 17 กันยายน 2563 พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (จากการเลือกตั้ง) จังหวัดตาก ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะยื่นจดหมายถึง รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอให้ทบทวนคำสั่งไม่อนุญาตให้แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจดหมายดังกล่าวจะส่งทางอีเมล์แทนการเดินทางไปยื่นถึงอธิการบดี หลังจากไม่นานมานี้ มีคณะบุคคลหลายฝ่ายได้เดินทางยื่นจดหมายถึงอธิการบดีแสดงจุดยืนทั้งสนับสนุนและคัดค้านการออกคำสั่งห้ามจัดการชุมนุมทางการเมือง

พนัสระบุว่า เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยมีมติไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการจัดการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน 2563 โดยทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันออกมาแสดงความเห็นทั้งสนับสนุนและคัดค้านมติของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะฝ่ายสนับสนุนคำสั่งที่อ้างว่ามาจากศิษย์เก่าทั้งหมดนำโดย แก้วสรร อติโพธิ ส่วนฝ่ายคัดค้านที่นำโดย สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ

ในส่วนทางตน ก็ไม่ทราบว่าสุชาติทำ ปรากฎว่ามีศิษย์เก่า 2-3 คนมาปรึกษาหลังจากแก้วสรรมายื่นสนับสนุน ซึ่งทางเราไม่เห็นด้วย เราควรเข้าชื่อกันเพื่อให้อธิการบดีทบทวนมติ จากไม่อนุญาตมาเป็นอนุญาตให้ใช้พื้นที่ เพื่ออย่างน้อยเป็นหลักประกันได้ว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เป็นการช่วยเหลือป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมที่มีนิสิต นักศึกษาและประชาชน หากไปชุมนุมนอกมหาวิทยาลัย ก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงที่ได้รับอันตราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า อธิการบดีจะทบทวนมติและเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาใช้ และการยืนยันว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้วตามคำกล่าวของ อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตอธิการบดี

พนัสกล่าวด้วยว่า ส่วนที่ไม่ไปยื่นถึงอธิการบดีนั้น เพราะเข้าใจว่าท่านคงเหนื่อยอยู่แล้ว และเป็นเรื่องทำให้ลำบาก จึงไม่อยากไปแสดงออกในเชิงกดดันท่าน อยากให้ท่านและผู้บริหารใช้วิจารณญาณ เราเสนอแค่ข้อมูลเข้าไป เพื่อจะรักษาธรรมศาสตร์เป็นดินแดนให้เสรีภาพและประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงอยากสงวนหลักการนี้ไว้

ฝ่ายความมั่นคงเจตนาขัดขวาง-ปิดกั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 

นอกจากนี้ ล่าสุดบนโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่บันทึกข้อความของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องงดการเรียนการสอนและงดการติดต่อในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ขอความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยงดการเรียนการสอนและงดติดต่อ รวมถึงปิดประตูทางเข้า-ออกมหาวิทยาลัย ยกเว้นประตูฝั่งท่าพระอาทิตย์ที่เดียว และหากเข้าไปในพื้นที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานหรือบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมให้เหตุผลที่จำเป็นกับเจ้าหน้าที่นั้น พนัสให้ความเห็นว่า ถ้าเป็นจริงตามนั้น ที่ฝ่ายความมั่นคงเข้ามา แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาสกัดกั้นไม่ให้จัดการชุมนุม และงดสอนกับนักศึกษาโดยไม่มีสาเหตุ มีการปิดประตูทางเข้า ฝ่ายความมั่นคงได้ลงมือแล้วในการสกัดกั้นขัดขวาง เป็นเรื่องที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ

“การที่นิสิต นักศึกษา ประชาชน จัดการชุมนุม เป็นการสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นอันบริสุทธิ์ต่อการบริหารการปกครอง เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถใช้อำนาจขัดขวาง แม้ใช้อำนาจแค่ขอร้อง ก็เป็นอันเข้าใจได้ว่ากำลังใช้อำนาจบีบบังคับคณะและมหาวิทยาลัย จึงเห็นได้ว่าเป็นการใช้อำนาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” พนัส กล่าวทิ้งท้าย

 

จดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์