อนุชา ไม่ห่วงม็อบนศ. แต่ห่วงมือที่ 3 เหน็บถ้าไม่พอใจลงถนน เมื่อไหร่จะได้ปชต.แท้จริง

อนุชา ไม่ห่วงม็อบ นศ. แต่ห่วงมือที่ 3 ชี้เป็นสิทธิแต่ถ้าเป็นตัวเองจะไม่ใช้วิธีลงถนน แอบเหน็บ ถ้าไม่พอใจก็ลงถนน เมื่อไหร่จะได้เห็นปชต.ที่แท้จริง

วันที่ 16 ก.ย. ที่รัฐสภา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา 19 กันยาวนนี้ ว่า ไม่กังวลต่อการชุมนุมที่จะมีขึ้นและอาจเคลื่อนตัวมาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมองเป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่จะมีการลงถนนเรียกร้องตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนิสิต นักเรียน นักศึกษา คิดว่าเป็นการทำตามหน้าที่ และมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าจะเป็นปัญหาทางสังคมไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันชัดว่าม็อบนักศึกษาเป็นเหมือนลูกหลาน และจะไม่เข้าไปก้าวล่วงแทรกแซงหรือทำให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ต้องระวังมือที่ 3 เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ไม่มีสัญญาณใดแตกต่างจากที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นการเรียกร้องในสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมควรเรียกร้อง

เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเรียกร้องและคิดตามว่าจะดำเนินการอย่างไร และเป็นเรื่องของรัฐภาที่จะพูดคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มผู้เรียกร้องต้องการเห็นไปในทิศทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการ ซึ่งต้องพูดคุยกันในระบอบรัฐสภาว่าจะนำพาสิ่งที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรแค่ไหน แต่ด้วยเจตจำนงของทุกฝ่ายถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่ารัฐสภาพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาส่วนหนึ่ง แต่รัฐสภาก็อยากเรียกร้อง หากนิสิตนักศึกษาหรือผู้ชุมนุม อยากเห็นประชาธิปไตยก็ให้มาแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมเห็นว่า ถ้าจะพูดคุยกันแบบลงถนนและเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมดก็อาจจะไม่ใช่ประชาธิปไตยที่นิสิตนักศึกษากำลังเรียกร้อง

“ถ้าเอาแต่ลงถนนแล้วเรียกร้องในสิ่งที่ตนต้องการก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น และปัญหาก็จะไม่จบสิ้นผมหลีกเลี่ยงการลงถนนมาโดยตลอด และผมพูดได้เต็มปากว่าไม่ใช้วิธีนั้น และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่บางครั้งทั้งผมและฝ่ายการเมืองไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หากรักประชาธิปไตยที่แท้จริงควรให้โอกาสรอจนถึง 4 ปี แล้วค่อยมาเลือกตั้งใหม่ ไม่พอใจมาแก้ไขกันในสภา ไม่ใช่ว่าผมดีเด่นอะไร ผมเป็นนักการเมืองธรรมดาคนหนึ่งที่จะทำงานการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะคิดอยู่ในกรอบหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ในกรอบกี่ปีกี่ชาติก็เหมือนเดิม ไม่พอใจก็ต้องลงถนนเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อไหร่จะจบสิ้น เมื่อไหร่ลูกหลานไทยจะได้เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง”นายอนุชากล่าว