เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ช่วงบ่ายจะมีการปล่อยตัว นพ.เหวง โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังได้รับการอภัยโทษ โดยทั้ง 3 ราย เป็นผู้สูงอายุและมีอาการป่วยต้องเข้ารับการรักษาสุขภาพ ขณะที่ นพ.เหวง มีปัญหาบ้านหมุนอยู่แล้ว และมีอาการปวดฟัน ต่อมลูกหมาก ไส้เลื่อน เป็นเพิ่มมาอีก ทั้งนี้ ผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษถือเป็นเรื่องดี ช่วยลดความแออัดในเรือนจำ เพราะส่งผลต่อสุขภาพผู้ต้องขัง และคนจำนวนมากได้รับประโยชน์หลังถูกจำกัดอิสรภาพ

นางธิดากล่าวอีกว่า ส่วนการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหลังจากนี้คงเป็นในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เพราะบทบาทแกนนำไม่อยู่ที่ นปช.แล้ว แต่ในฐานะอดีต นปช.จะไม่เปลี่ยนจุดยืน สำหรับการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ส่วนตัวมองว่าระบบการเมืองการปกครองหลังรัฐประหารครั้งล่าสุดไม่เป็นปกติ มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพ จึงเป็นแรงกดต่อสังคมทำให้เกิดการต่อต้านจากประชาชน เพื่อต้องการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อยากเปลี่ยนอนาคตของตัวเอง จึงออกมารวมตัวกันอย่างที่เกิดขึ้น

นางธิดากล่าวว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็วมาก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องปรับตัวพร้อมรับฟังหรือพูดจาด้วยเหตุผล เพราะนักศึกษารุ่นใหม่ศึกษาอ่านประวัติศาสตร์ กรณีการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไม่มีแกนนำชัดเจนนั้นและอาจควบคุมไม่ได้ มองว่าเป็นเรื่องดีที่ชูเนื้อหาเป็นสาระในการนำซึ่งมีหลัก 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ยุบสภา 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.หยุดคุกคามประชาชน ทั้งนี้ การที่เยาวชนออกมาต่อสู้นั้น นับเป็นเรื่องยากในการใช้อำนาจรัฐกับเยาวชน เพราะเขาไม่ได้มีผลประโยชน์ชัดเจน เขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไหน หลายคนอาจจะนินทาว่าอยู่พรรคนี้หรือไม่ ก็ไม่มีหลักฐานชัดเจน บอกตรงๆ ว่าเด็กพวกนี้เขาก็เปลี่ยนได้ เขาไม่ได้ยึดใครเป็นสาธารณะ อยากให้ผู้ใหญ่ลองฟังที่เขาพูด อะไรที่ไม่ชอบก็วิจารณ์เขาได้ ตนเชื่อว่าเขารับฟังแม้ว่าจะมีความคิดแตกต่าง ถ้าเขาไม่ฟังเหตุผล มันก็พิสูจน์ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า