ธนาธร อัด บิ๊กตู่ หากใส่ใจความเดือดร้อนปชช.จริง ต้องทำให้งบปี64 ใช้ทันภายใน 1 ต.ค.นี้

ธนาธร อัด บิ๊กตู่ หากใส่ใจความเดือดร้อนปชช.จริง ต้องทำให้งบปี64 ใช้ทันภายใน 1 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ถึงการบริหารจัดงานงบประมาณของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า
[ หากใส่ใจความเดือดร้อนประชาชนจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ต้องทำให้งบประมาณปี 2564 บังคับใช้ให้ทันภายใน 1 ตุลาคมนี้ ตามกรอบเวลาปกติ ]
.
พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะสิ้นสุดลงตามวงรอบปีงบประมาณ ในวันที่ 30 กันยายนนี้ และตามปกติก็ควรจะต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ให้ทันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปจนถึงปีงบประมาณถัดไป
.
ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างกฎหมายภายในสัปดาห์นี้ และจะมีการลงมติในวันที่ 18 กันยายน จากนั้นวุฒิสภาจะพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์ต่อไป และลงมติในวันที่ 21 กันยายน
.
ทั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564, สภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ทำงานกันอย่างหนักตามกรอบเวลาที่ตั้งขึ้นไว้อย่างเคร่งครัด ในชั้นคณะกรรมาธิการงบประมาณ พวกเรากรรมาธิการประชุมกันถึงสามทุ่มเกือบทุกวันติดกันเป็นเดือนเพื่อให้พิจารณาเสร็จตามกรอบ ซึ่งตามกรอบที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรียังมีเวลาอีกถึง 9 วันที่จะนำร่างกฎหมายนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้เป็นกฎหมายให้ทันการณ์
.
แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา สำนักงบประมาณได้ออกหนังสือด่วนที่สุดว่าด้วยหลักเกณฑ์การใช้งบปี 2563 ไปพลางก่อน ให้กับหน่วยงานราชการทั่วทั้งประเทศ เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้งบไปพลางก่อน นั่นหมายความว่ากฎหมายงบประมาณในปีถัดไปนั้นไม่สามารถประกาศใช้ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม
เมื่อผมทราบข่าวเรื่องนี้ก็ตกใจมาก ผู้คนจำนวนมากกำลังเดือดร้อนในภาวะเศรษฐกิจ คนตกงานเป็นล้านๆ คน พนักงานบริษัทไม่มีโอทีเพราะไม่มียอดสั่งซื้อ พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดขายได้น้อยลงจนอยู่กันอย่างอัตคัด ขัดสน หลายคนต้องล้มเลิกกิจการไป นักเรียนนักศึกษาเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษานับล้านคน แต่ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ รัฐบาลกลับไม่เร่งรีบผลักดันให้งบประมาณออกใช้ได้ตามกรอบเวลา


.
ตามหลักเกณฑ์การใช้งบไปพลางก่อนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 141 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้น รัฐบาลจะยังไม่สามารถใช้งบลงทุนได้ หมายความว่าเงินลงทุนของรัฐที่วางแผนโครงการไว้ว่าจะมาช่วยเหลือประชาชน ฟื้นฟูเยียวยาหรือพัฒนาประเทศ จะใช้ไม่ได้เลยจนกว่าจะเริ่มบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
.
ความเสียหายทำนองนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563 เพื่อนำงบประมาณมาใช้ในการต่อสู้การแพร่ระบาดของไวรัสและฟื้นฟูเยียวยาประเทศ
โดย พ.ร.บ.โอนงบฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 17 มิถุนายน 2563 และผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาวันที่ 22 มิถุนายน 2563 แต่กว่า พ.ร.บ.โอนงบฯ จะได้รับการลงพระราชปรมาภิไธยและประกาศใช้เป็นกฏหมาย ก็ปาเข้าไปวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 หรือใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน ซึ่งเวลาอีกเกือบหนึ่งเดือนที่เสียไป คือโอกาสของประเทศที่เสียไปในการนำงบประมาณไปรับมือกับวิกฤตโควิด
.
ในปีก่อน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 12 วันหลังจากการเห็นชอบของวุฒิสภามาจนถึงการบังคับใช้เป็นกฏหมาย และ พล.อ.ประยุทธ์ยังพออ้างได้ว่าเพราะมีการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2562 จึงทำให้ผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปีไม่ทัน แต่ในการจัดทำงบประมาณปี 2564 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีข้ออ้างใดๆ เลย
.
หากใส่ใจกับความเดือดร้อนของประชาชนจริงอย่างที่กล่าวอ้างมาตลอด หากต้องการฟื้นฟู ประเทศให้เร็วที่สุดเพื่อให้งบลงทุนจะถูกนำไปใช้และก่อให้เกิดการจ้างงานได้อย่างเร็วที่สุด ทำให้ข้าราชการลดภาระงานเอกสาร ไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อน และไม่ต้องทำงานอย่างพะว้าพะวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้ทูลเกล้าฯ ร่างพระราชบัญญัติให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้ และเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ จึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการทำให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วมีผลบังคับใช้ให้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้