“ไฟเซอร์” ลุ้นได้ข้อสรุปวัคซีนต้าน “โควิด” ก่อนสิ้นต.ค.นี้ คาดถึงมืออเมริกันชนได้ในสิ้นปี

สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐอเมริการายงานเมื่อวันที่ 13 กันยายน อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ซีอีโอของบริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ในสหรัฐ ที่กล่าวถึงวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับ ไบโอเอ็นเทค บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนีว่า ทางไฟเซอร์ควรจะสรุปข้อมูลสำคัญของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จากการทดลองทางคลินิกในเฟสสุดท้ายให้กับสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ)ของสหรัฐได้ก่อนสิ้นเดือนตุลาคมที่จะถึง และอาจจะสามารถแจกจ่ายวัคซีนดังกล่าวให้กับชาวอเมริกันได้ก่อนสิ้นปีนี้ หากวัคซีนนั้นได้รับการรับรองจากเอฟดีเอแล้วว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสโควิด-19

ซีอีโอของไฟเซอร์กล่าวอีกว่า ไฟเซอร์ได้ลงทุนในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปแล้วเป็นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากวัคซีนนั้นล้มเหลว ก็จะถือเป็นความเจ็บปวดทางการเงินของบริษัท

ทั้งนี้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐประกาศทุ่มเงินจำนวน 1,950 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนผลิตและแจกจ่ายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดส หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิผล โดยวัคซีนที่ไฟเซอร์กำลังพัฒนา เป็นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีสารพันธุกรรม ที่เรียกว่า RNA หรือ mRNA ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะช่วยกระตุ้นระบบการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส

ไฟเซอร์ เป็น 1 ใน 3 บริษัทผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่กำลังอยู่ในการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ในขั้นสุดท้าย โดยอีก 2 บริษัท ได้แก่ โมเดอร์นา ของสหรัฐ และ แอสตราเซเนกา ของอังกฤษที่เพิ่งประกาศกลับมาทำการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ตนเองพัฒนาขึ้นต่อ หลังจากที่หยุดพักไปชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

เมื่อวันเสาร์(12 ก.ย.)ที่ผ่านมา ไฟเซอร์ได้เสนอให้เอฟดีเอขยายการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในเฟสสุดท้ายเพิ่มมากขึ้น โดยให้เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมในโครงการทดลองวัคซีนนี้เป็น 44,000 คน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 30,000 คน